MGR Online - ตม. สนามบิน ประเมินผลการปฏิบัติของด่าน ตม. สนามบิน ในความรับผิดชอบ ทั้ง 5 ด่าน ในรอบ 6 เดือน ยอดนักท่องเที่ยวเข้า - ออก ทะลุ 14 ล้าน โดยมีการเช่าเหมาลำ และเปิดเส้นทางยอดนิยม จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และมีสายการบินต้นทุนต่ำ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 โดย พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของ ด่าน ตม .สนามบิน ในความรับผิดชอบ ทั้ง 5 ด่าน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ในรอบการทำงานช่วงระยะ 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.- มิ.ย. 2561 มีข้อมูล โดยเฉพาะด้านความมั่นคง และ ด้านการอำนวยความสะดวก ที่น่าสนใจ หลังจากที่ช่วงปีที่ผ่านมา มีกระแสเกี่ยวกับการทำงานของ ด่าน ตม. สนามบิน ซึ่งเปรียบเสมือนประตูของประเทศและภูมิภาคอาเซียน มาอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการปฏิบัติด้านงานความมั่นคง ซึ่งถือเป็นภารกิจหลัก พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก มีการจับกุมผู้กระทำผิดคดีอาญา และ พ.ร.บ. ต่างๆ ได้ ทั้งสิ้น 156 ราย โดยในกลุ่มนี้สามารถจับกุมชาวต่างชาติที่เข้าข่ายใช้หนังสือเดินทางปลอม ทั้งแบบปลอมเล่ม ปลอมใบหน้า หรือ Imposter ปลอมวีซ่า และ ปลอมตราประทับ รวม 12 ราย ซึ่งการจับกุมดังกล่าวถือเป็นการสกัดเส้นทางการเคลื่อนย้ายของบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นภัยคุกคามในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ด้วยระบบ Advance Passenger Processing หรือ APPS โดยมีคดีสำคัญ อาทิ การจับกุม Mr.Oh Janghyn ชาวเกาหลี คดีค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2561 หรือ การจับกุม Mr.Dolen Zuarez ชาวอิสราเอล คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2561
นอกจากนั้น ยังมีการสกัดกั้นชาวต่างชาติไม่พึงประสงค์ที่เสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ประมาณ 3,461 ราย โดยในจำนวนนี้ มีกลุ่มต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ จำนวน 30 ราย เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และแสดงออกถึงการต่อต้านการเป็น Sex country ในสายตาต่างชาติให้หมดไป
ส่วนด้านการอำนวยความสะดวก พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 มีคนเดินทางเข้าประเทศ ทางด่าน ตม.สนามบิน ทั้ง 5 แห่ง รวม 17,838,650 คน ในจำนวนนี้ เป็นต่างชาติ 14,752,560 คน ซึ่งภาพรวมทั้งการเข้า - ออก ประเทศ ทั้งสิ้น 41,952,051 คน... เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 31.33% โดยในส่วนของ ด่าน ตม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตูหลักของประเทศ มีการเดินทางเข้าประเทศ ถึง 10,696,706 คน ในจำนวนนี้ เป็นชาวต่างชาติ 8,708,064 คน ภาพรวม เข้า - ออก ทั้งสิ้น 21,098,309 คน เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2560 โตถึง 6.89% รองลงมา เป็น ด่าน ตม. ดอนเมือง ผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศ รวม 3,750,112 คน ในจำนวนนี้ เป็นต่างชาติ 2,769,090 คน คิดยอดเข้า - ออก รวม 7,467,392 คน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ดอนเมือง เติบโตกระโดดถึงร้อยละ 18.67
“วิเคราะห์แล้วจะเห็นว่า อาจเป็นเพราะ ดอนเมือง มีการเพิ่มเที่ยวบินเหมาลำ และเปิดเส้นทางยอดนิยม จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และมีสายการบินต้นทุนต่ำ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงท้ายปี 2560 ต่อเนื่องปี 2561
ทาง บก.ตม.2 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.สตม. ให้เร่งแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ และการทำงาน โดยเฉพาะปัญหาความหนาแน่น และ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ได้ศึกษาและรายงานปัญหา และ ต่อมา ผบช.สตม. ได้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนในการปรับปรุงระบบ PIBICS และ ระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Autometic channel ให้กับด่านต่างๆ รวมถึง บก.ตม.2 อย่างจริงจังเร่งด่วน จนสามารถรองรับการทำงานได้โดยไม่ติดขัดมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้าช่วงปีใหม่จนถึงปัจจุบัน” รองโฆษก สตม. ระบุ
นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพล จาก ตร. โดยได้เปิดรับการคัดเลือกจากบุคคลภายนอกจำนวน 254 นาย เข้ามาเป็น ผบ.หมู่ ในสังกัด ด่าน ตม. สนามบิน ซึ่งกลุ่มนี้เพิ่งผ่านการฝึกทักษะงานตำรวจ และกลับมาประจำสังกัด ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
รวมถึงมีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจใน สตม. และ นอก สตม. เป็น ตำรวจระดับรองสารวัตร เพิ่มขึ้นจำนวน 37 นาย และ ผบ.หมู่ เพิ่มขึ้นจำนวน 26 นาย ในวาระการแต่งตั้งที่ผ่านมา โดย บก.ตม.2 ได้จัดกำลังทั้งหมด กระจาย ลงปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 5 ด่าน เพื่อรับสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง หลังจากที่ร่วมกับ บก.ตม.ภูมิภาค แก้ปัญหาด้วยการดึง จนท.ตม. ด่านต่างๆ ทั่วประเทศมาเสริมกำลัง เพื่อแก้ปัญหาในช่วงเทศกาลสำคัญ ก่อนหน้านี้
นอกจากนั้น ยังมีการแก้ปัญหาในเชิงบริหารจัดการ ด้วยการจัดระบบคิวในพื้นที่ การจัดช่องทางพิเศษสำหรับกลุ่ม priority เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ สตรีตั้งครรภ์ รวมถึงการประกาศชี้แจง สร้างความเข้าใจ ทั้งในระดับสื่อมวลชน และในพื้นที่ปฏิบัติการภายใต้ความร่วมมือแบบบูรณาการกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน และ สายการบินต่างๆ ส่งผลให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตต่างๆ มาได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และสงกรานต์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มสูงทะลุยอดนิวไฮท์ 160,000 คน ต่อวัน ก็ตาม
พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ได้เร่งฝึกความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เพื่อฝึกทักษะเตรียมรองรับสถานการณ์เทศกาลในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ ที่สำคัญคือ การเน้นความพร้อมด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการติดตั้งระบบจัดเก็บข้อมูลชีวภาพ หรือ Biometric ที่ช่องตรวจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสกัดกั้นบุคลไม่พึงประสงค์ เช่นเดียวกับ ด่าน ตม.ท่าอากาศยาน ในประเทศสากลอื่นๆ ตามนโยบายของทางรัฐบาล ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่า จะมียอดผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล อาจสูงขึ้นเกือบ 10% ทาง พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ได้สั่งการให้ ผกก.และ หัวหน้าด่านต่างๆ เร่งประเมิน และ วิเคราะห์สถานการณ์ ร่วมกับทางการท่าอากาศยาน และสายการบิน ไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและการลงทุนของประเทศไทย ตามนโยบายที่ทางรัฐบาล ผบ.ตร. และ ผบช.สตม. ได้ให้ไว้