MGR Online - กลุ่มตัวแทนจำหน่ายคาโอะ เครือเมจิกสกิน โร่ร้องรอง ผบ.ตร. โดนเบี้ยวสินค้าเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางนภัทร ทยุติชยาธร พร้อมผู้เสียหายกลุ่มแม่ข่ายจากผลิตภัณฑ์สินค้าคาโอะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตรีชฎา ในเครือบริษัท เมจิกสกิน เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้ช่วยดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกเงินคืน มูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท
นางนภัทร กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์คาโอะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตรีชฎา ผู้เสียหายทั้งหมดที่หลงเชื่อครั้งนี้เดิมทีก็เป็นแม่ข่ายขายผลิตภัณฑ์ให้กับตรีชฎามาก่อน กระทั่งเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางแบรนด์ตรีชฎา แจ้งมาว่าจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ คือ คาโอะ เป็นเซรั่มทาหน้า ที่อ้างว่า ทาแล้วทำให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียวเป็นวีเซฟโดยไม่ต้องร้อยไหม หรือบินไปถึงเกาหลี ราคากล่องละ 79 บาท พวกตนจึงหลงเชื่อโอนเงินค่าสินค้าล็อตแรก วันที่ 9 ม.ค. จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ ของยอดซื้อ โดยจะได้สินค้าประมาณปลายเดือน ก.พ. แต่ผลิตภัณฑ์เมจิกสกินถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน ทางบริษัทแจ้งกลับว่าให้ชะลอการส่งมอบสินค้าไปก่อน เพราะเอาสินค้าออกมาไม่ได้ และจะต้องเปลี่ยนโรงงานผลิต เพราะเดิมทีเมจิกสกินเป็นคนผลิตให้
นางนภัทร กล่าวว่า ต่อมาทางเจ้าของตรีชฎาได้แจ้งมาว่าได้โรงงานใหม่แล้ว คือ โรงงานอินเท็กซ์ แต่เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าโรงงานไม่มีอย่างที่กล่าวอ้าง และมีการขอเลื่อนอ้างอีกครั้ง กระทั่งเดือน มี.ค. เจ้าของตรีชฎาแจ้งมาอีกครั้งว่ามีบริษัทใหม่ที่รับผลิต คือ บ.ฮานิวโคเรีย จำกัด เมื่อตรวจสอบก็พบว่าอยู่ในเครือของเมจิกสกิน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมแล้ว ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มของตนที่ได้รับความเสียหายประมาณ 98 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่มที่หลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อผลิตภัณฑ์คาโอะคาดว่ามีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการตรวจค้น บ.ฮานิวโคเรีย พบผลิตภัณฑ์คาโอะ เมื่อตรวจสอบไม่พบเหยื่อไผ่จากญี่ปุ่น หรือเห็ดญี่ปุ่นหลายชนิดตามที่โฆษณากล่าวอ้าง เข้าข่ายการโฆษณาสิ่งที่ไม่มีจริง แสดงข้อความจริงอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง ทำให้ประชาชนหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ หลังจากรับเรื่องจะส่งให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อ ส่วนคดีเมจิกสกินอยู่ระหว่างกระบวนยึดบ้านและที่ดินเพราะเขาข่ายมูลฐานความผิดฟอกเงิน
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีเจ้าของผลิตภัณฑ์ตรีชฎาที่ร่วมกับ บ.เมจิกสกิน หลังมีการสรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้ว ว่า การดำเนินคดีกับเจ้าของตรีชฎา ไม่มีปัญหาถึงแม้จะส่งอัยการไปแล้ว เพราะเป็นการทำผิดต่างกรรมต่างวาระ อายุความเริ่มนับหนึ่งใหม่ และคดีนี้จะเร็วกว่าคดีที่แล้ว เพราะเราได้สอบปากคำบางส่วนไปแล้ว ทั้งในส่วนเจ้าของโรงงาน และผู้ต้องหาก็อยู่ในความควบคุมของคดีอื่น ส่วนที่อัยการยื่นฟ้องไม่ทันและสั่งให้สอบเพิ่มเติมนั้น เพราะคดีลักษณะคดีที่มีผู้เสียหายหลายร้อยคน อัยการจึงยื่นฟ้องไม่ทัน เมื่อยื่นฟ้องไม่ทันจึงออกหมายปล่อยตัวผู้ต้องหาที่อยู่ในการควบคุมของศาล แต่ผู้ต้องหาที่ได้รับหมายปล่อยยังอยู่ในความควบคุมของคดีอื่นอยู่แล้ว