อัยการสั่งสอบเพิ่ม “เมจิก สกิน” อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เสนอปล่อยสามีภรรยาตัวการ ครบกำหนดฝากขัง

MGR online - อัยการเลื่อนสั่งคดี “เมจิกสกิน” พร้อมให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเครื่องสำอางดังกล่าวมีสารประกอบอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันเตรียมเสนอศาลปล่อยตัว 2 สามี ภรรยา เจ้าของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง

วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 6 สำนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ถ.รัชดาภิเษก นายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร , นายพรชัย บุญถนอม อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 , น.ส.ณภัสนันท์ กุลจิราธราสิริ อัยการประจำกอง สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวการสั่งคดี เมจิกสกิน ที่อัยการนัดสั่งคดีครั้งแรก ภายหลัง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ส่งสำนวนการสอบสวน 2 ลัง พยานเอกสารหลักฐาน 6,932 แผ่น ที่มีผู้เสียหายรวม 145 คน มูลค่าความเสียหาย 113 ล้านบาท พร้อมความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหารวม 6 ราย มาส่งมอบให้ นายยงยุทธ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 รายในคดีนี้ ประกอบด้วย บริษัท เมจิกสกิน จำกัด โดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1 , นายกร พวงสน อายุ 37 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 , นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี (ภรรยาของนายกร) ผู้ต้องหาที่ 3 , น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม ใจสบาย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 , บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาที่ 5 และน.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ อายุ 33 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 6 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 , พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558

ผู้ต้องหาที่ 1-4 ถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม

ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง , เป็นผู้รับจ้างผลิตฉลากที่มีข้อมูลซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และรับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม

นายพรชัย บุญถนอม อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 กล่าวว่า ในการสรุปความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาต้องมี พยานหลักฐานที่ครบถ้วนสมบูรณ์พอที่จะมีความเห็นสั่งคดีได้ไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งคดีนี้มีการกล่าวหา เครื่องสำอางว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนได้ส่งเครื่องสำอางไปตรวจ ทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่เป็นการหาสารพิษในส่วนผสมของเครื่องสำอาง แต่ไม่สามารรถตรวจหาสารประกอบ และสรรพคุณ ที่ชี้ให้อัยการเห็นว่าเครื่องสำอางดังกล่าวนั้น มีการอวดอ้างเกินจริงอย่างไร จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในประเด็นนี้เพราะเป็นสาระสำคัญทางคดี

ในส่วนของนายกร และนางวรรณภา พวงสน 2 สามีภรรยา จะครบกำหนดฝากขัง ครั้งที่ 4 ในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อการสั่งคดียังไม่แล้วเสร็จ อัยการจึงต้องทำหนังสือแจ้งไปยังศาล เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปก่อน และนัดให้มาฟังคำสั่งคดีวันที่ 12 ก.ค.นี้

ส่วน น.ส.ตรีชฎา และ น.ส.ปาจรีย์ ได้รับการประกันตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวน หลังจากอัยการมีความเห็นทางคดีจะนัดให้ทั้งหมดมาฟังคำสั่งต่อไป