xs
xsm
sm
md
lg

ส่งหมายจับ 5 ผู้ต้องหาช่วยอดีตพระพรหมเมธีเข้าระบบ ตม.เรียกเพิ่ม 20 พยานสอบเอี่ยวเงินทอนวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - กองปราบร่อนหมายจับ 5 ผู้ต้องหาช่วยอดีตพระพรหมเมธีเข้าระบบ ตม. หากพบเข้าประเทศล็อกตัวได้ทันที เตรียมเรียกพยานอีก 20 ปาก พัวพันเงินทอนวัดสระเกศฯ มาสอบ คาดสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องต้นเดือนหน้า

วานนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการติดตามตัว 5 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหลังมีพฤติกรรมช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ว่าขณะนี้ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมกำลังจัดกำลังออกติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยมีชุดสืบสวนของกองปราบปรามให้การสนับสนุน โดยในส่วนของนางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล หรือสีกาจุ๋ม หนึ่งในผู้ต้องหาที่เดินทางออกไปยังประเทศอังกฤษก่อนที่จะถูกออกหมายจับนั้น ชุดสืบสวนได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้นำหมายจับใส่เข้าไปในระบบตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หากเดินทางกลับเข้ามาก็จะดำเนินการจับกุมและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้ทันที ขณะที่ 3 ผู้ต้องหาชาวลาวที่ประกอบด้วย นางจันทนา รัตนวงษ์ นางจิตติมา ลัดตะมะวง และนายน้อย รัตนวงษ์ ลูกสาวและลูกชายของนางจันทนา ทาง สตม.ได้นำหมายจับใส่เข้าระบบและขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวังแล้ว หากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ต้องหาอีกคน คือ นายพีรวิช ศรีศรัทธา คนขับรถของพระพรหมเมธีนั้นยังคงหลบหนีและยังไม่มีรายงานว่าเดินทางออกนอกประเทศ

ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเร่งรัดการรวบรวมพยานและหลักฐานในการเอาผิดกับผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดทั้งหมดอย่างเร่งด่วนและรัดกุม หลังจากที่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำตัวผู้ต้องหาผลัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งที่สองไปแล้วมีกำหนดเวลา 12 วัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าจากการที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนของวัดสระเกศวรมหาวิหาร และได้ยึดเอกสารมาจำนวนมากนั้น เมื่อตรวจสอบดูแล้วพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำอีกอย่างน้อย 20 ปาก ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ได้รับเงินที่โอนมาจากบัญชีของวัดและบัญชีส่วนตัวของ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งคำให้การจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ต้องหา โดยในส่วนของวัดสระเกศนั้น ถือว่าเป็นผู้ต้องหากลุ่มใหญ่ที่สุด และมีเส้นทางการเงินที่ซับซ้อนกว่าวัดสามพระยาวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อปรากฏพยานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก พนักงานสอบสวนของคดีในส่วนของวัดสระเกศ จึงอาจจะต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานมากกว่าวัดอื่นๆ คาดว่าสำนวนการสอบสวนของทั้งสามวัดที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนนั้น จะสามารถส่งให้กับอัยการได้หลังการฝากขังอีก 2 ผัด หรือสรุปสำนวนได้ราวต้นเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าพยานที่เรียกมาสอบนั้นรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือไม่สามารถชี้แจงเส้นทางทางการเงินได้ก็อาจจะถูกพิจารณาดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าขณะนี้ตำรวจจะยังไม่สามารถจับกุมตัวอดีตพระพรหมเมธีมาดำเนินคดีได้ก็ไม่เป็นปัญหา และไม่กระทบต่อสำนวน เพราะพนักงานสอบสวนสามารถที่จะสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการพิจารณาไปก่อนได้แม้จะไม่มีตัวผู้ต้องหา และหากจับกุมตัวได้ภายหลังก็สามารถควบคุมตัวมาสอบสวนแจ้งข้อหาและดำเนินการส่งอัยการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น