MGR Online - ตำรวจออกหมายจับหนุ่มภารตะ 300 คน แอบอ้างการจดทะเบียนกับหญิงไทยเพื่ออยู่ในประเทศไทยต่อ หลังจับหนุ่มอินเดียใช้ทะเบียนสมรสปลอม
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) แถลงผลการจับกุม นายปราบาห์การ์ ซิงห์ (Prabhakar Singh) นายริเตซ กูมาร์ (Ritesh Kumar) นายแมนจี๊ต มาลลาห์ (Manjeet Mallah) ทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของชาวอินเดีย จำนวน 5 ราย คือ นายสุรัช ปรากาศ ซิงห์ (Suraj Prakash Singh) นายราจู ชาร์มา (Raju Sharma) นายไชเรซ กูมาร์ ทริปาตี (Shailesh Kumar Tripathi) นายวิเจนดร้า นิชาร์ด (Vijendra Nishad) นายบาจัน นิชาร์ด (Bhajan Nishad) โดยทั้งหมดใช้ทะเบียนสมรสที่ออกโดยส่วนราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาวชาวไทยหลายราย ที่พบว่าตนเองมีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย ทั้งที่แต่ละคนไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและไม่รู้จักชาวอินเดียที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนสมรสแต่อย่างใด จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บช.ทท. และชุดสืบสวน สตม.ประสานกับ อ.วังม่วง จ.สระบุรี ทำการตรวจสอบ และพบว่ามีรายชื่อหญิงไทยจำนวน 300 ราย ที่อาจจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียโดยมิชอบ หรือโดยอำพราง และต่อมาพบว่ามีชาวอินเดียบางรายนำทะเบียนสมรสที่ออกโดยส่วนราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว โดยอ้างเหตุในการขออยู่ต่อเพื่ออุปการะภรรยา หรือ เยี่ยมคู่สมรสชาวไทย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
ส่วนรายชื่อที่เหลือประมาณ 1,700 ราย เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบว่ารายชื่อผู้จดทะเบียนสมรสได้อยู่กินกันจริงหรือไม่ หากพบความผิดปกติจะถูกเพิกถอนทะเบียนสมรสทันที นอกจากนี้ ตำรวจได้ออกหมายจับชาวอินเดียอีกกว่า 300 ราย ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างการจดทะเบียนกับหญิงไทยเพื่ออยู่ในประเทศไทย มาดำเนินคดี โดยมีผู้กระทำผิดบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ขณะที่บางส่วนที่ยังคงอยู่ในประเทศไทย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวมีการขยายผลจับกุมชาวต่างชาติอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ โดยขยายผลตรวจสอบรายชื่อบัตรประชาชนหญิงไทย มากกว่า 2,000 ราย ที่ถูกปลัดอำเภอ อ.วังม่วง จ.สระบุรี 2 ราย และเจ้าหน้าที่ธุรการ รวมทั้งสิ้น 3 ราย ร่วมกันทุจริตนำรายชื่อ อาทิ สำเนาการกู้ยืมเงิน หรือรายชื่อที่ถูกคนใกล้ชิดนำไปส่งต่อ จดทะเบียนสมรสโดยมิชอบ ก่อนส่งกลับไปให้เพื่อรับเงินค่านายหน้ารายชื่อละ 2,000 บาท ขณะนี้ผู้กระทำผิดทั้ง 3 ราย ถูกไล่ออกจากราชการ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการตั้งแต่ปี 2558
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือพาผู้หญิงไทยซึ่งมีรายชื่อเป็นคู่สมรสของชาวอินเดียไปทำการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวแล้วจำนวน 13 ราย และอยู่ในระหว่างการประสานติดตามผู้ที่มีรายชื่อตกเป็นคู่สมรสโดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป
