“มนตรี” ประธานบอร์ด เมย์แบงก์ ชี้ส่วนแบ่งการตลาดปีนี้คาดลดลงเหลือเพียง 7-7.5% จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 8-9% เหตุนักแนะนำการลงทุนถูกซื้อตัวไปเป็นจำนวนมาก กดดันส่วนแบ่งการตลาดร่วง 1.5% เผยไม่คาดหวังขายทอดตลาดหุ้น IFEC รอบ 2 ถ้าไม่ได้รับการตอบรับอาจลดราคาไปเปิดประมูลรอบ 3 ต่อไป
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET กล่าวในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้กว่า 3,671.40 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการที่อุตสาหกรรมโบรกเกอร์เข้าสู่ภาวะซบเซาลงอย่างมาก จากดัชนี SET Index ที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นสูงตามระดับที่ได้ประเมินไว้ ทำให้ปริมาณวอลุ่มการซื้อขายแบบเก็งกำไรปรับตัวลดลง ซึ่งปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 45,000 ล้านบาทต่อวันเท่านั้น แตกต่างจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 52,000 ล้านบาทต่อวัน ทำให้รายได้ในส่วนนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่า สัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในปีนี้จะอยู่ที่ 61% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 70.60%
ขณะที่ในส่วนของ Market Share ธุรกิจโบรกเกอร์ของบริษัทในปีนี้ นายมนตรี เปิดเผยว่า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7-7.5% จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าอยู่ที่ระดับ 8-9% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการถูกบริษัทโบรกเกอร์อื่นซื้อตัวเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งไปกว่า 200 ราย ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีนักแนะนำการลงทุน หรือ investor consultant เหลืออยู่ประมาณ 600 รายเท่านั้น ซึ่งสัดส่วนที่ลดลงนั้น ทำให้กระทบกับมาร์เกตแชร์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 1.5%
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และคาดว่าจะกลับฟื้นตัวขึ้นในอนาคต โดยกรณีที่เกิดขึ้นนี้ บริษัทได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ทั้งในศาลแรงงาน ศาลแพ่ง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
ขณะที่ในส่วนของงานนำบริษัทจดทะเบียนใหม่เข้าซื้อขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO (Initial Public Offering) ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 10-15 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนใหม่เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในช่วงไตรมาส 4/2560 อย่างน้อย 2-3 บริษัท
ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดประมูลขายทอดตลาดหุ้นของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ในรอบที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม 2560 เวลา 10.00 น.นั้น บริษัทฯ ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะได้รับผลตอบรับในทิศทางใด ซึ่งหากไม่ได้รับการตอบรับ และบริษัทฯ ก็จะหาโอกาสในการเปิดประมูลในรอบที่ 3 ต่อไป แต่อาจจะมีการปรับราคาขั้นต้นของการประมูลลง โดยปัจจุบัน MBKET ถือหุ้น IFEC อยู่จำนวน 22.7 ล้านหุ้น