MGR Online - ศาลแพ่งจำหน่ายคดี กกต.ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจาก กปปส. ฐานขัดขวางจนจัดการเลือกตั้งปี 2557 ไม่สำเร็จ ระบุให้รอคดีอาญาก่อน ขณะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ระดมพยานกว่า 126 คนสู้ มั่นใจชนะคดี
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีหมายเลขดำที่ พ.3500/2560 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และเลขาธิการ กปปส.กับพวกรวม 38 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย กรณีที่กลุ่ม กปปส.ขัดขวางการจัดการเลือกตั้งทั่วไปของ กกต.เมื่อปี 2557 ทำให้ กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 3,100 ล้านบาท
โดนวันนี้นายสุเทพ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย พร้อมทีมทนายความเดินทางมาศาล ต่อมาศาลได้พิจารณารวมคดีของจำเลยอีกคนหนึ่งที่มีการแยกฟ้องเข้ามารวมในคดีนี้ ทำให้จำเลยคดีนี้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 39 คน และศาลได้ชี้สองสถานกำหนดประเด็นการต่อสู้คดีให้มีความครอบคลุม เช่น การฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ คดีหมดอายุความหรือไม่ การฟ้องของโจทก์ใช้สิทธิโดยสุจริตและมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใด จำเลยทั้งหมดต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นควรให้มีการพิจารณาจำหน่ายคดีแพ่งนี้ชั่วคราว เพื่อรอฟังผลในส่วนคดีอาญา ที่นายสุเทพกับพวกถูกฟ้องในข้อหากบฏและข้อหาอื่นที่รวมถึงการขัดขวางการเลือกตั้งจากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ กกต.ฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีการจัดเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 ที่จัดไม่สำเร็จ เพราะพวกตนไปขัดขวางการเลือกตั้งทำให้เกิดความเสียหาย จำเลยคดีนี้มีชาวพัทลุงรายหนึ่งเสียชีวิต ฝ่ายโจทก์บอกให้นำภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตเข้ามาเป็นจำเลยร่วมรับผิดชอบความเสียหายในคดีนี้ด้วย ส่วนตัวสงสารมากเพราะภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตนั้นไม่มีสมบัติอะไร แต่ก็ถูกนำมาร่วมรับผิดชอบ ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย จำเลยรายหนึ่งที่ถูกแยกฟ้องก็เอามารวมเป็นคดีเดียวกัน
ประเด็นการฟ้องของโจทก์ใช้สิทธิโดยสุจริตหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือการจัดการเลือกตั้งนั้น โจทก์คือ กกต.รู้อยู่แล้วว่าประชาชนทั้งประเทศต่อต้านคัดค้านการเลือกตั้ง แล้วก็มีองค์กรหลายองค์กรได้แสดงความเห็นแล้วว่าไม่ควรจัดการเลือกตั้ง แต่ กกต.ก็เลือกที่จะเสี่ยงภัยเอาเอง ดึงดันจัดการเลือกตั้ง เมื่อจัดแล้วมีความเสียหายจะมาบอกว่าเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตก็ไม่ได้
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ฝ่ายโจทก์ได้เสนอพยานมาทั้งหมด 126 คน ฝ่ายจำเลยมีพยานประมาณ 50 คน ศาลเห็นว่าคดีแพ่งนี้มีผลเกี่ยวข้องต่อเนื่องจากคดีอาญา ศาลได้สอบถามคดีอาญาที่ตนถูกดำเนินคดี ตนก็ได้กราบเรียนให้ทราบคดีจากการชุมนุมคราวนี้มีตั้งแต่ก่อการร้าย กบฏ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อั้งยี่ ซ่องโจร บุกรุกสถานที่ราชการ และขัดขวางการเลือกตั้ง ศาลจึงวินิจฉัยให้รอผลการพิจารณาคดีอาญาเรื่องขัดขวางการเลือกตั้งด้วย ขอขอบคุณประชาชนที่เป็นห่วงพวกตนจะล้มละลายเพราะต้องเสียค่าเสียหาย 3,100 ล้านบาท
“พวกผม มวลมหาประชาชนที่ออกมาต่อสู้กัน เรามีเจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง ความตั้งใจดีของเราในเรื่องนี้ เราได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังว่า เราต่อสู้ในฐานะพลเมืองดี เราระวังไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น ตามข้อกล่าวหาทั้งหมดเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นเราต้องรวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน บุคคลมาเป็นพยานยืนยันต่อศาล แล้วเราคิดว่าเราทำได้” นายสุเทพกล่าว
ในส่วนที่ประเด็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น นายสุเทพยังไม่ขอตอบ โดยจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไปในเวลา 14.00 น.ของวันนี้ (21 พ.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญาของนายสุเทพกับพวกเกี่ยวกับการชุมนุมกลุ่ม กปปส.ในข้อหากบฏ และข้อหาอื่นที่รวมถึงการขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดตรวจหลักฐานในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.