กองปราบฯ รวบลูกเลี้ยงกลัวไม่ได้มรดก ปลอมพินัยกรรมพ่อแม่บุญธรรม

ตำรวจกองปราบปราม จับลูกเลี้ยงกลัวไม่ได้รับมรดก ปลอมพินัยกรรมพ่อแม่บุญธรรม แอบเบิกเงินไปใช้กว่า 20 ล้านบาท

วันนี้ (15 พ.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์, พ.ต.ท.ชัยฏิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายณัฐชัย ศรีอิทยาวิทย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1041/35 ถ.เพลินจิต ซ.นายเลิศ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.462/2560 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2560 ข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม ได้ที่ห้องพักของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยแบริ่ง 58 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ

พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวว่า ก่อนหน้ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามว่าถูกนายณัฐชัยซึ่งเป็นลูกบุญธรรมที่พ่อกับแม่ตนเองที่นำมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ร่วมกันกับพวกปลอมคำสั่งศาลและพินัยกรรมของพ่อแม่ผู้เสียหาย โดยนายณัฐชัยเกรงว่าตนเองจะไม่ได้มรดกตามพินัยกรรมแน่ จึงตัดสินใจแก้คำสั่งศาลและปลอมพินัยกรรมขึ้นมาเอง ก่อนนำไปยื่นต่อธนาคารชื่อดังหลายๆ แห่งที่พ่อแม่ของผู้เสียหายมีทรัพย์สินฝากไว้ จนทำให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารหลงเชื่อและยินยอมให้ผู้ต้องหาถอนเงินมากว่า 20 ล้านบาท โดยกองมรดกมีทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ารวมกันแล้วกว่า 150 ล้านบาท เมื่อได้เงินไปแล้วก็หลบหนีไป ก่อนจะตามจับกุมได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ยังไม่ถูกจับกุมอีก 3 คดีคือ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารทางราชการและใช้เอกสารราชการปลอมและร่วมกันฉ้อโกง ของศาล จ.พระโขนง, หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 94/2561 ข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงานในยุติธรรม และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 95/2561 และข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงานในยุติธรรม

สอบสวนนายณัฐชัยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และก็ยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับพ่อแม่บุญธรรม ที่รับนายณัฐฃัย ศรีอิทยาวิทย์ มาเลี้ยงตั้งแต่เด็กนั้น เคยประกอบธุรกิจอาบอบนวดมาก่อน จากนั้นได้ขายกิจการไป ส่วนทรัพย์สินที่มีอยู่นั้น มีทั้งที่ดินอยู่ในย่านเพลินจิต และจังหวัดนครนายก รวมทั้งเครื่องเพชรเครื่องทอง และเงินในธนาคารรวมมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท หลังพ่อแม่บุญธรรมเสียชีวิตลงเมื่อปี 2558 นายณัฐชัย เกรงว่าจะไม่มีส่วนในมรดก จึงได้วางแผนปลอมพินัยกรรมและคำสั่งศาล ก่อนจะนำไปถอนเงินจากธนาคาร จนทำให้น้องสาวของแม่บุญธรรม พบเห็นความผิดปกติในเรื่องดังกล่าวจึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่กก.5.บก.ป.ให้ช่วยสอบสวนสืบสวน จนพบว่านายณัฐชัยนั้นได้ร่วมกับพวกปลอมพินัยกรรมและคำสั่งศาลขึ้นมาดังกล่าว