MGR Online - ศาลให้ประกัน “พ.ต.ท.สันธนะ” 3 แสนบาท หลังพนักงานสอบสวนค้านประกัน ห้ามออกนอกประเทศ-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และมารายงานต่อศาลวันที่ 2 ก.ค.นี้
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.27 น. ภายหลังคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 317/2561 โดย พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ พนักงานสอบสวนได้นำตัว พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล และที่ปรึกษาของบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด มาถึงศาลอาญาเพื่อยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก พนักงานสอบสวนได้เตรียมคำร้องมา 8 คำร้องตามหมายจับ แต่ได้นำคำร้องทั้งหมดไปแก้ไขรวมเป็นคำร้องเดียว โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาเดือนเมษายน 2559 ถึงเมษายนปี 2561 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหากับพวกรวม 11 คนได้ร่วมกันเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน จากผู้ค้าเครื่องสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพในตลาดใหม่ดอนเมือง ร้านละ 1-3 พันบาท โดยผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่กันทำ เรียกเก็บเงินช่วงปลายเดือนของทุกเดือน มีการเรียกเก็บค่าจอดรถยนต์เดือนละ 700 บาท ค่าจอดจักรยานยนต์เดือนละ 300 บาท
มีพฤติกรรมเป็นการข่มขู่คุกคามผู้ขาย จนทำให้เกิดความว่าจะเกิดอันตรายหากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว จากการสอบสวน ขณะนี้มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ต้องหา9คดี เเละมีคดีที่ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ 8 คดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกัน กรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 337, เหตุเกิดที่ตลาดใหม่ดอนเมือง อาคารแอร์พอร์ต พลาซ่า เเขวงเเละเขตดอนเมือง กทม.
กระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 เจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหานี้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1015/2561 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ได้ที่บ้านพักบิดาย่านถนนเลียบด่วนรามอินทราชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อหา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องทำการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 50 ปาก รอผลตรวจสอบพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษผู้ต้องจากกองทะเบียนประวัติอาชญกร ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ 12 วัน ตั้งแต่ 13-24 พฤษภาคม
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีการกระทำเป็นขบวนการ มีผู้เสียหายจำนวนมาก และทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและพยาน ประกอบกับการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหากับพวกเคยถูกจับกุมในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวพาไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และร่วมกันมีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครอง โดยในการจับกุมพบว่าผู้ต้องหากับพวกมีการครอบครองอาวุธปืนมากถึง 5 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนถึง 70 นัด อันมีลักษณะเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากศาลให้ประกันตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ทั้งผู้ต้องหามีการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันหลายคดี มีผู้เสียหายมากกว่า 127 รายได้มาเเจ้งความดำเนินคดีไว้ ทั้งยังมีความผิดเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ที่เป็นข้อหาหนักและมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคล จนพยานบุคคลและผู้เสียหายเกิดความเกรงกลัว เพราะเคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาข่มขู่ให้จ่ายเงิน
นอกจากนี้ ผู้ต้องหาเป็นหัวหน้ากลุ่มและมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 20 คน กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ผู้ต้องหาอาจสั่งการให้ลูกทีมในพื้นที่ทำร้ายหรือข่มขู่ผู้เสียหายและพยานในคดีนี้ อันอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงได้ รวมทั้งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นจับกุมบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง กลุ่มผู้ต้องหาก็ยังปลอมตัวเป็นสื่อมวลชนปะปนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงตนให้กลุ่มผู้เสียหายและพยานเห็นอย่างเด่นชัดว่าผู้ต้องหากับพวกยังมีอำนาจและศักยภาพในการปฏิบัติการที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เสียหายและพยานได้ และปรามไม่ให้ผู้เสียหายและพยานให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอันเป็นอุปสรรคก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือการดำเนินคดีในชั้นศาล อีกทั้งผู้ต้องหากับพวกได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของทางราชการอื่นๆ ดังนั้น การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ฝากขัง พ.ต.ท.สันธนะ ผู้ต้องหาได้
ด้านนายอภิชาติ ครัวเชื้อ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว พ.ต.ท.สันธนะ ระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ พ.ต.ท.สันทนะประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 2 กรกฎาคมเวลา 09.00 น.