MGR Online - ตำรวจไทยยกระดับปราบปรามค้ามนุษย์ หวังสหรัฐฯ ปรับอันดับทิปรีพอร์ตดีขึ้น ชงตั้ง 2 กองบังคับการใหม่ ปราบขวนการค้ามนุษย์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ล่อลวงเด็กทั้งชายหญิง ถ่ายภาพ คลิปลามกอนาจาร แล้วนำไปขายทางโซเชียลมีเดีย
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำวจแห่งชาติ (พดส.ตร.) เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ทางการสหรัฐอเมริกาจะประกาศรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ หรือทิปรีพอร์ต ประจำปี 2561 ด้วยปัจจัยและผลงานที่ทางรัฐบาลไทยเดินหน้าปราบปรามและป้องกันการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง หวังว่าระดับเทียร์ของไทยจะกระเตื้องขึ้นจากระดับ 2 เฝ้าระวัง หรือวอตช์ลิสต์ เป็นระดับ 2 ผลจากการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ที่รัฐบาลไทยทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมาจนสามารถจับกุมตัวการรายสำคัญได้กว่า 20 ราย โดยศาลพิพากษาลงโทษตัวการสำคัญสถานหนัก เช่น คดี โกนั้ง ที่กันตัง จ.ตรัง, คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่อง อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา, คดีสถานบริการนาตารี พิพากษาจำคุกเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไป 16 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาคดีอีกนับ 10 ราย อยู่ในชั้นสอบสวนของ ป.ป.ท.อีก 17 ราย ขยายผลไปถึงผู้เสพ ผู้ใช้บริการขบวนการค้ามนุษย์ทุกรุปแบบ ตรงนี้เป็นผลการปฏิบัติงานที่ทำให้รายใหญ่ หยุดและปรับตัวเป็นผู้กระทำผิดรายย่อยและไปแฝงตัวในอินเทอร์เน็ต หรือไปกระทำผิดนอกประเทศ
“เราพบว่ารูปแบบการค้ามนุษย์ที่พบมากขึ้น คือ การล่อลวงเยาวชน ทั้งชายหญิง ถ่ายภาพ คลิปลามก อนาจาร เปิดโชว์ แล้วนำไปขายทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดย 2 ปีที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้ง TICAC-Thailand Internet Crimes Against Children หรือไทยแคค ที่รวมทีมตำรวจด้านสืบสวนสอบสวน ดำเนินการสืบสวนทั้งเชิงรุกและรับ ช่วยเหลือเหยื่อขยายผลจับกุมผู้ที่กระทำละเมิดต่อเด็ก ทำสื่อลามกที่มีเด็กเป็นเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง และพบว่าผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ไม่ใช่กลุ่มต่างชาติอย่างที่เราตั้งสมมุติฐานและมีฐานข้อมูลในระบบของตำรวจนานาชาติในตอนแรก แต่เมื่อเราเดินหน้าทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจัง ช่วยเหลือเหยื่อจำนวนมาก สืบสวนขยายผลต่อเนื่องพบว่ากลุ่มคนไทยคือกลุ่มที่ก่อเหตุ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ เพศทางเลือก ทำให้เราต้องดำเนินจริงจังรับมืออาชญากรรมค้ามนุษย์บนโลกออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น” พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ระบุ
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันมีทีมงานไทยแคค 150 คน ที่ทำงานประจำและมาทำงานด้านนี้ดูแลปราบปรามสื่อลามก การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ขายสื่อลามก และปราบปรามค้าประเวณี ทำงานร่วมกับชุดทำงานของ พดส.ตร. บริหารงานผ่าน พดส.ตร.ที่มีตนเองเป็นซีอีโอ มีทีมสืบสวนพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล ใช้ทีมงานจากกองกำกับพิสูจน์หลักฐานด้านคอมพิวเตอร์ มีการตั้งแล็บที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ดึงทีมจาก ตำรวจภาค 7 ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์จากประเทศอังกฤษ
จากผลปฏิบัติการของทีมงาน ตนได้เสนอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว เสนอตั้งหน่วยทำงานด้านค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ขึ้น 2 หน่วย เป็นหน่วยระดับกองบังคับการ คือ กองพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล ซึ่งสอดรับกับที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเปิดรับบุคคลภายนอกและภายใน วุฒิปริญญาตรี ในตำแหน่งตรวจพิสูจน์ด้านดิจิทัล คอมพิวเตอร์ 100 ตำแหน่ง โดยหน่วยงานใหม่จะช่วยงานสืบสวนสอบสวน พิสูจน์หลักฐานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และอีกหน่วยคือ ทำไทยแคคเป็นชุดถาวร โดยทางการสหรัฐอเมริกาที่เป็นที่ปรึกษา อยากให้หน่วยไทยแคคเป็นหน่วยถาวร จึงเสนอ ผบ.ตร.เห็นชอบหลักการตั้งเป็นกองบังคับการ ดูแลปราบปรามสื่อลามกเด็กโดยเฉพาะ เหล่านี้อยู่ในข่ายค้ามนุษย์ ขณะนี้ทราบว่าอยู่ในกระบวนการวิเคราะห์โครงสร้างหน่วยและตำแหน่งของหน่วย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์กล่าวว่า สื่อลามกเด็กเป็นเทรนด์ในต่างประเทศ สำหรับประเทศเราพบว่าตนต่างชาติกลุ่มหนึ่งมองว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายของ child sex tourism และคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียกันมาก เด็ก เยาวชน ตกเปลี่ยนเหยื่อล่วงละเมิด มีกลุ่มลับ กลุ่มไลน์ กลุ่มเฟซบุ๊ก หลอกเด็กแลกกล้อง พาไปล่วงละเมิด พาไปค้า เรามีความเสี่ยง เราจึงต้องป้องกันไว้ก่อน เตรียมความพร้อม โดยได้คำแนะนำจากหน่วยสืบสวนโฮมแลนด์ซิเคียวริตีของสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานร่วมกันมาตลอด 2 ปี ผลงานเป็นที่ประจักษ์ พอใจผลงานของไทย ยกย่องว่าหน่วยไทแคคสามารถเป็นต้นแบบของหน่วยที่ทำงานด้านนี้ในภูมิภาคได้เลย ตอบโจทย์ในด้านการลดดีมานด์ หรือความต้องการการค้ามนุษย์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการประเมินอันดับทิปรีพอร์ต