MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวบุกเมืองมะขามหวาน จับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 3 ราย ช่วยเหลือเด็กหญิงชาวลาว-ไทย 5 คน เผยเปิดคาราโอเกะบังหน้าลอบค้าประเวณี หักค่านายหน้าคิวละ 500 บาท
วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.1 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตัวแทนมูลนิธิพิทักษ์เด็กและสตรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.หฤทัย หรือปู ธรรมมิตร อายุ 41 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์, น.ส.วัลลี หรือลี กองเกิน อายุ 32 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และนายสมบูรณ์ หรือบุญ บุญอยู่ อายุ 57 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหล่มสัก ในข้อหากระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การจับกุมสืบเนื่องจากมูลนิธิพิทักษ์สตรีได้รับแจ้งข้อมูลจากพลเมืองดีขอให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กและผู้หญิง กรณีพบหญิงสาวสัญชาติลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี และมากกว่า 18 ปี ถูกนำมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในร้านอาหารและคาราโอเกะใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จากการสืบสวนได้ทราบว่า น.ส.หฤทัย น.ส.วัลลี และนายสมบูรณ์ เป็นธุระจัดหาเด็กและเยาวชนมาขายประเวณี โดยหลอกว่าพามาเป็นแม่บ้านทำงานบ้าน มีค่านายหน้าและทำพาสปอร์ตในราคา 15,000 บาท จากนั้นจะส่งต่อให้กับนายหน้าที่จัดหาเด็กไปขายบริการ และถ่ายรูปเด็กเก็บไว้เพื่อให้ลูกค้าเลือก โดยคิดค่าบริการ 1,500-2,000 บาทต่อครั้ง จากนั้นจึงจะส่งเด็กให้ลูกค้า โดยจะหักค่านายหน้าจากเด็ก 500 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เปิดคาราโอเกะบังหน้า โดยมีการแนะนำเด็กในร้าน รวมทั้งนัดหมายลูกค้าผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Bee talk พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี มีการคิดค่านายหน้าและค่าตอบแทนจากเด็ก ชุดปฏิบัติการปราบปรามการค้ามนุษย์จึงได้สืบสวนหาข่าวจนทราบถึงพฤติการณ์การจัดหาเด็กมาค้าประเวณีของ น.ส.หฤทัย น.ส.วัลลี และนายสมบูรณ์ จึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยสามารถช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกล่อลวงมาบังคับค้าประเวณีได้จำนวน 5 คน เป็นชาวไทย 1 คน ชาวลาว 4 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานและคัดแยกเหยื่อเพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
