ผู้จัดการออนไลน์ - ย้อนรอย...คดีค้ากาม “แก๊งนกฮูก” บ้านน้ำเพียงดิน เปิดเผยวงจรฟอนเฟะ ตำรวจชั่วสมคบแม่เล้าเด็กล่อลวงหญิงสาวในเมืองแม่ฮ่องสอน ปรนเปรอให้ฟุ้งเฟ้อ มอมเมายาเสพติดแล้วถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์บังคับพลีกายข้าราชการเลว
บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของคดีอาชญากรรมค้ามนุษย์ที่ผู้ต้องหาคนสำคัญ “ค้ากามแก๊งนกฮูก” ที่บ้านน้ำเพียงดิน อ.เมืองฯ จ.แม่ฮ่องสอน ด.ต.ยุทธชัย หรือดาบยุทธ ทองชาติ อายุ 43 ปี สังกัด สภ.น้ำเพียงดิน ต้องโทษหนักที่สุด 320 ปี
กรณีแห่งคดีนี้ เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 31 ธ.ค. 2557 ดาบยุทธถูกฟ้องคดีค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี หมายเลขดำที่ คม.42/2560 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 3 เป็นโจทก์ฟ้องร่วมกับพวกอีก 8 คน ซึ่งพวกจำเลยได้ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเพื่อการค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณี โดยพราก น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง เพื่อการค้าประเวณีเพื่อหากำไร และเพื่อการอนาจาร โดยจำเลยได้รับส่วนแบ่งค่านายหน้า บังคับให้ผู้เสียหายค้าประเวณี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งแปดกระทำความผิดตามฟ้อง โดยดาบยุทธเป็นข้าราชการต้องระวางโทษ 2 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานค้ามนุษย์ และการกระทำของจำเลยทั้งแปดเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ขณะที่แม่เล้าคู่ใจดาบยุทธ น.ส.ปิยะวรรณ หรือเมย์ สุขมาก อายุ 27 ปี ถูกพิพากษาจำคุก 167 ปี, น.ส.ปิยทัศน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 31 ปีพิพากษาให้จำคุก เป็นเวลา 176 ปี
จุดเริ่มต้นของคดีค้ากามแก๊งนกฮูกที่บ้านน้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน นับเป็นเรื่องที่อื้อฉาวมากเมื่อปีที่แล้ว เมื่อแม่ของหญิงสาวที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์รายหนึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวน่าสลดใจต่อสื่อ
เธอระบุว่า ลูกสาววัย 19 ปี ถูกแม่เล้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งบังคับให้ค้ากามกับข้าราชการระดับสูงในพื้นที่น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เห็นภาพลูกโผล่ในขบวนการค้ากาม โดยมีสัญลักษณ์ถูกจับสักรูปนกฮูกไว้ตามร่างกายโดยเฉพาะหน้าอก
“ไม่เฉพาะแต่ลูกสาว ยังมีเด็กสาวรายอื่นๆ ด้วย ถ้าไม่ยอมตำรวจนายนี้ก็จะขู่ดำเนินคดียาเสพติด เพราะถูกถ่ายคลิปขณะเสพยาเอาไว้ เด็กก็จำใจยอม”
แจ้งความไว้ในท้องที่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2559 แต่คดีไม่คืบหน้า ต่อมาเธอได้ร้องเรียนหลายหน่วยงาน แม้จะถูกข่มขู่สารพัด กระทั่งขู่เอาชีวิต รวมไปถึงการเสนอเงินจำนวนมหาศาลให้กับการบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจต่อสู้กับอิทธิพลมืด เพราะเห็นว่าเป็นวงจรอุบาทว์ที่น่าเศร้า มีเด็กสาวถูกล่อลวง ข้าราชการตำรวจเป็นผู้กระทำเสียเอง รวมไปถึงข้าราชการระดับสูงที่ใช้บริการเด็กในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
“ใครๆ ก็รู้ว่าดาบยุทธเป็นคนจัดหาเด็ก” เธอกล่าว
ขบวนการนี้ได้ชักนำเด็กสาวที่บริสุทธิ์ไปค้าประเวณี มีกลุ่มแม่เล้าเด็กซึ่งอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก โดยเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อระบุว่ามีมากกว่า 11 กลุ่มที่อยู่ภายใต้การครอบงำของกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่แสวงประโยชน์จากเด็กสาว
วิธีการล่อลวงเด็กสาวเหล่านี้มีทั้งการให้เพื่อนที่ค้ากามอยู่แล้วเข้าไปตีสนิท พูดคุยหว่านล้อม เสนอสิ่งล่อลวงใจให้ เช่น โทรศัพท์มือถือราคาแพง รวมไปถึงการชักชวนให้เสพยาบ้า จากนั้นก็จะลักลอบถ่ายวิดีโอคลิปไว้เพื่อข่มขู่หากไม่ยินยอมทำตามคำสั่ง
เธอเล่าอีกว่า ในกลุ่มเด็กสาวที่ตกเข้าสู่ขบวนการค้าประเวณี ส่วนหนึ่งก็เต็มใจที่จะทำเพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และคิดว่าคนที่ตนไปนอนด้วยนั้นเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ข้าราชการระดับสูงจะไม่กล้าเปิดเผยเรื่องลับนี้ทำให้ตัวเองไม่ต้องเดือดร้อนในอนาคต
น่าสังเกตว่า เด็กสาวที่อยู่ในขบวนการค้ากามบ้านน้ำเพียงดินส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเรียนทั้งที่กำลังศึกษาอยู่โรงเรียน หรือระดับวิทยาลัยในพื้นที่ของตัวจังหวัด เมื่อมีลูกค้าติดต่อมา หากเป็นข้าราชการระดับสูง แต่ละครั้งจะใช้รถตราโล่ห์ของ สภ.แห่งหนึ่งไปส่งเด็กสาวตามสถานที่ต่างๆ ที่นัดหมาย
หลังจากที่ตกเป็นข่าวครึกโครม และมีการดำเนินคดีอย่างเข้มข้น เด็กสาวหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อในขบวนการนี้ได้ออกมาสำทับข้อมูลของแม่คนนี้ว่า พวกเธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น เด็กสาวบางรายถูกบังคับให้ขายบริการวันละหลายรอบ บางรายติดโรคร้ายแรง บางรายก็ตัดสินใจหนีความจริงที่โหดร้ายออกจากพื้นที่บ้านเกิดไป ทั้งนี้ เด็กสาวที่ตกเป็นเหยือเกือบทุกคนบอกตรงกันว่า...
ถ้าย้อนวันเวลาได้ ไม่อยากจะรู้จักคนพวกนี้เลย เพราะทุกวันนี้ทนทุกข์ทรมานเหลือเกิน