xs
xsm
sm
md
lg

ชาวผู้ดีครึ่งล้านลงชื่อให้เมย์ลาออก-ยังจีบพรรคเล็กร่วมตั้งรัฐบาลไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอังกฤษออกมาแก้ข่าวพัลวัน หลังประกาศว่าตกลงกันได้แล้วกับพรรคเดโมเครติก ยูเนียนนิสต์ (DUP) ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่อีกฝ่ายกลับแถลงว่า ยังต้องเจรจาในรายละเอียดกันต่อ ขณะที่สมาชิกภายในพรรคอนุรักษนิยมส่วนหนึ่งพยายามขัดขวางไม่ให้เมย์จับมือกับ DUP เนื่องจากมีนโยบายหลายอย่างขัดแย้งกันอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน กระแสเรียกร้องในสังคมออนไลน์ให้เมย์ลาออก มีการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนได้แล้วเกิน 500,000 คน

เมื่อวันเสาร์ (10 มิ.ย.) ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงว่า บรรลุข้อตกลง “ความไว้วางใจและการสนับสนุน” กับ DUP และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) แต่ในเวลาต่อมา อาร์ลีน ฟอสเตอร์ หัวหน้าพรรค DUP กลับออกมาบอกว่า สองพรรคยังไม่ได้ข้อสรุป และจะหารือกันต่อในสัปดาห์นี้เพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดการสำหรับสภาชุดใหม่

ภายหลังการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ กับทางพรรค DUP เมื่อคืนวันเสาร์ ทำเนียบนายกรัฐมนตรี จึงได้ออกแถลงการณ์ใหม่อีกครั้ง ว่า ยังไม่บรรลุข้อตกลงสุดท้าย และนายกรัฐมนตรีจะหารือขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับข้อตกลงความไว้วางใจ และการสนับสนุนเมื่อรัฐสภาเปิดประชุมในสัปดาห์นี้ และหากทั้งสองพรรคได้ข้อยุติแล้วจะแถลงให้ทราบต่อไป

ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมของเมย์ขู่คัดค้านการร่วมกับ DUP อย่างเป็นทางการ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของพรรคดังกล่าวเกี่ยวกับสิทธิกลุ่มรักร่วมเพศ การทำแท้ง และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ การเป็นพันธมิตรอย่างหลวมๆ กับพรรคการเมืองจากไอร์แลนด์เหนือแห่งนี้ จะทำให้เมย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรค DUP 10 คนในรัฐสภาสำหรับการโหวตสำคัญ

การตัดทางเลือกสำหรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้เมย์บริหารรัฐบาลยากขึ้นนั้น มีขึ้นหลังจากที่พรรคอนุรักษนิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ทำให้เมย์ถูกคณะรัฐมนตรีบีบให้เลือกระหว่างการปลดหัวหน้าคณะทำงานที่ไว้วางใจทั้งสองคนคือ “นิก ทิโมธี” และ “ฟิโอนา ฮิลล์” กับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเมย์เลือกทางแรกและแต่งตั้ง เกวิน บาร์เวลล์ ที่เพิ่งพ่ายแพ้ในเขตครอยดอนเซ็นทรัล เป็นหัวหน้าคณะทำงานคนใหม่

ลือกันว่า หลังจากรู้ผลการเลือกตั้งสุดช็อก บรรดาสมาชิกอาวุโสของพรรคอนุรักษนิยมได้หยั่งเชิง บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่า พร้อมท้าทายตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหรือไม่ถ้าเมย์ไปไม่รอด อย่างไรก็ตาม จอห์นสันทวิตเมื่อคืนวันเสาร์ว่า ข่าวดังกล่าว “ไร้สาระ”

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์รายงานว่า DUP วางแผนเลี่ยงความขัดแย้งขณะเริ่มต้นการเจรจาด้วยการเลี่ยงการรวมนโยบายทางสังคมที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เช่น การคัดค้านการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันหรือการทำแท้งใน “รายการชอปปิ้ง” หรือข้อเรียกร้องต่อพรรคอนุรักษนิยม

นอกจากนั้น ยังเป็นที่เข้าใจกันว่า DUP อาจยืนยันว่า จะผลักดันนโยบายเหล่านั้นในบริบทของไอร์แลนด์เหนือภายในรัฐสภาไอร์แลนด์เท่านั้น

แหล่งข่าวใน DUP เผยว่า พรรคจะขอคำมั่นสัญญาจากเมย์ ว่า จะไม่มีการทำประชามติในการรวมไอร์แลนด์ และไม่มีข้อกำหนดด้านพรมแดนที่เคร่งครัดสำหรับเกาะไอร์แลนด์ กล่าวคือ หลังจากที่สหราชอาณาจักรเสร็จสิ้นขั้นตอนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ต้องไม่มีการตรวจสอบพลเมืองที่เดินทางจากไอร์แลนด์เหนือที่ท่าเรือและสนามบินของอังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลส์

แหล่งข่าวใน DUP ยังเผยว่า รายการสิ่งที่เรียกร้องของพรรคเป็นรายการเดียวกับแผน “ไอร์แลนด์เหนือ” เมื่อปี 2015 เพื่อแลกกับการสนับสนุนของพรรค สำหรับพรรคอนุรักษนิยมที่ขณะนั้นมีเสียงส่วนน้อย หรือพรรคแรงงานที่เป็นพรรครัฐบาล ซึ่งรวมถึงการขอเพิ่มงบประมาณสำหรับโรงเรียนและโรงพยาบาลในไอร์แลนด์เหนือ และลดภาษีอากรการเดินทางทางอากาศในไอร์แลนด์เหนือ 50% หรือยกเลิกทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมบางคนกังวลว่า ข้อตกลงอย่างเป็นทางการกับ DUP ที่มีแนวทางหลายอย่างขัดแย้งกับพรรค อาจเป็นการบ่อนทำลายนโยบายและผลงานต่างๆ ที่พรรคสร้างสมมา เช่น นโยบายเกี่ยวกับสตรีและความเท่าเทียม

การเรียกร้องออนไลน์ให้เมย์ลาออกแทนการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ DUP มีผู้ลงชื่อสนับสนุนกว่า 500,000 คน เมื่อคืนวันเสาร์

นอกจากคัดค้านการทำแท้งและการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันแล้ว DUP ยังแต่งตั้งสมาชิกที่ไม่สนับสนุนข้อตกลงแก้โลกร้อนนั่งตำแหน่งอาวุโสภายในพรรค

โจนาธาน พาวเวลล์ ผู้ที่อดีตนายรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ของอังกฤษ มอบหมายให้ดำเนินการเจรจาลับกับกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (IRA) ภายหลังข้อตกลงกู๊ด ฟรายเดย์ ปี 1998 กล่าวในบทความในดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์ฉบับวันจันทร์ ว่า ถ้าเมย์ตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ DUP แทนกลุ่มยูเนียนนิสต์ที่เคยทำงานร่วมกับพรรคอนุรักษนิยม รัฐบาลชุดใหม่จะไม่สามารถบริหารประเทศอย่างเป็นธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น