ผู้เสียหายถูกแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์เปิดใจ โดนบุกค้นบ้านแล้วพาไปรีดทรัพย์ในลานจอดรถสโมสรตำรวจ บังคับกดเอทีเอ็มให้รวม 4 หมื่น ฉกสร้อยทองอีก 4 บาท ก่อนพามาส่งบ้าน พบทรัพย์สินสูญหาย ด้านคดีจับผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน เสียชีวิต 1 คนและยังหลบหนีอีก 4 คน
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 61 ที่สถานีตำรวจภูธรคูคต นายอัครายุทธ วรากรณ์ นายศรัณยู วรากรณ์ น.ส.เกวลิน คณะสุข และ น.ส.กรรณิการ์ อุ่นสาย ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งตำรวจพร้อมพวกอุ้มไปรีดทรัพย์ ได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้อีก 1 คน ทราบชื่อ นายประทาน หรือ บอย ศรีจันทร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/3 หมู่ 2 ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ได้ที่อำเภอคลองลึก จังหวัดสระแก้ว และที่จังหวัดนครสวรรค์ มีข่าวว่าพบศพผู้เสียชีวิตนอนตายในป่าไผ่นั้น สรุปแล้วเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาแก็งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์ ในพื้นที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ด้าน นายต้น (นามสมมติ) อายุ 22 ปี บอกว่า ตนเองอยู่บ้านด้วยกัน 5 คน และในวันเกิดเหตุน้องชายของตนออกไปซื้อของนอกบ้านพอน้องชายตนกลับเข้ามาในบ้านกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมด 7 คน ก็ได้เข้ามาในบ้านพร้อมอาวุธครบมือจากนั้นก็ได้ถามว่าของอยู่ไหน ปืนอยู่ไหน ตนก็บอกว่าไม่มีถ้าพี่อยากค้นก็ค้นเลยเมื่อค้นได้สักครู่กลุ่มชาย 4 คนได้นำตัวตนเองกับน้องชายไปที่ลานจอดรถสโมสรตำรวจจากนั้นหนึ่งในคนร้ายก็ถามว่ามีเงินไหมพอหาตังได้ไหม ตนก็ตอบไปว่าไม่มี ซึ่งถ้าเป็นยาก็จะต้องเสียเงินประกันที่ศาล 5 แสนบาท แต่ถ้าเป็นเงินสด 3 แสน ตนจึงบอกไปว่าไม่มี ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะรู้ว่าตนมีบัตร ATM อยู่ และได้พาตนไปกดเงินครั้งแรกจำนวน 2 หมื่นบาท และครั้งที่ 2 จำนวน 1 หมื่นบาทพร้อมกับเงินของลูกจำนวน 1 หมื่นบาท พร้อมกับเอาสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท ของน้องชายตนไป หลังจากนั้น คนร้ายก็ได้มาส่งตนกับน้องชายที่บ้านเมื่อตนขึ้นไปบนบ้านก็พบว่ามีทรัพย์สินอย่างได้หายไปจำนวนหนึ่งจึงได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต และในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ตนมาชี้ตัวผู้ต้องเพิ่มหลังจับเพิ่มเติมได้อีก 1 คน สรุปแล้วคดีแก๊ง ตร.อุ้มรีดทรัพย์ถึงเวลานี้ จับผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน เสียชีวิต 1 คนและยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ 4 คน
ต่อมาที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง (โอ๋ สืบ6) รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า คดีกลุ่มคนร้ายร่วมกันปล้นทรัพย์ บุกรุก และหน่วงเหนี่ยวกักขัง เพื่อรีดเอาทรัพย์ กับผู้เสียหาย เหตุเกิดในท้องที่ สภ.คูคต จ. ปทุมธานีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า วันนี้ เป็นการประชุมเร่งรัดคดีครั้งที่ 3 เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้าเป็นระยะ นำโดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ชุดสืบสวน สภ.คูคต และชุดสืบสวน ภ.1 โดยได้แบ่งงานกันทำ ที่ผ่านมา ได้ประชุมติตามผลมาแล้ว 2 ครั้งแล้ว มีหมายจับที่ทางเราได้ออกไปแล้ว ทั้งหมด 7 ราย เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต่อหาได้ 2 ราย โดยทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สืบสวน สภ.คูคต ได้บูรณะการการทำงานร่วมกับ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้สืบสวน ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีนี้อีก 1 ราย ขณะนี้เราอยู่ ระหว่างการขยายผล ส่วนผู้ต้องหารายหนึ่งมาการยิงผู้เสียชีวิตในพื้นที่ ชุมแสน จ.สนครสวรรค์ จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ยืนยันว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายประสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม มูลเหตุเหตุการณ์จูงใจที่นำไปสู่การฆ่า อยู่ระหว่างการสืบสวนในเชิงลึกต่อไป
ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้มีคำสั่งให้ ตำรวจทั้ง 3 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนทางพลตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจหรือรอให้ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว เราได้เร่งรัดจับกุมเรื่องเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีที่สะเทือนขวัญกับพี่น้องประชาชน และประชาชนให้ความสนใจเนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เหิมเกริม จากที่ตรวจสอบมีอยู่ 2 ราย ที่ได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจได้ประสานประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางตรงและทางอ้อม โดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี ได้ทำหนังสือเพื่อประสานกับตำรวจทูตที่อยู่ในประเทศนั้น เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีให้ได้โดยเร็ว อีก 2 รายที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเราได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้เร่งรัดในคดีนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนผู้ต้องหาที่ตำรวจจับเพิ่มได้อีก 1 คน ชื่อ นายประทาน ศรีจันทร์ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 98/3 หมู่ 2 ตำบลสายลำโพง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จับได้ที่อำเภอคลองลึก จังหวัดสระแก้ว เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดโดยมีหน้าที่ชี้เป้า ทั้งนี้ทางตำรวจต้องสืบสวนทางเชิงลึกต่อไป
และล่าสุด พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อม พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวนสภ.คูคต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กรณีคดีกลุ่มคนร้ายร่วมกันปล้นทรัพย์ นายอัษฎายุธ วรากรณ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 61 เวลา 01.30 น. ที่บ้านเลขที่ 50/162 หมู่บ้านพฤกษา 57 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้ร่วมกันนำตัว นายประทาน หรือ บอย ศรีจันทร์ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 98/3 หมู่ 2 ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จว.นครสวรรค์ โดยสามารถจับกุมได้ที่อำเภอคลองลึก จังหวัดสระแก้ว ได้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยตลอดการทำแผน นายประทาน หรือ บอย มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ยอมมอง และก้มหน้าตลอดเวลาและเอามือปิดหน้าไว้ ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาใส่หมวกกันน็อกไว้ และไม่ยอมพูดคุยกับผู้สื่อข่าว หลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับทันที
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า จากการสอบสวน เบื้องต้น นายประทาน หรือ บอย ศรีจันทร์ มีหน้าที่ดูลาดเลา และชี้เป้า และทำหน้าที่ขับรถในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นทางเราได้ออกหมาจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดแล้ว จำนวน 7 คน จับกุมได้แล้ว 2 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน และยังคงหลบหนีอยู่อีก 4 คน ซึ่งกรณีที่เสียชีวิตนั้น ลักษณะถูกยิง และเหมือนนำศพเอาไปอำพราง ซึ่งในตอนนี้ได้มอบหมายให้ทางชุดสืบสวน เดินทางไปดูและพร้อมกับประสานกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 6 ที่ จ.นครสวรรค์แล้ว และตอนนี้ชุดสืบสวนยังคงสืบสวนการฆาตกรรม และเร่งรัดคดีอยู่ เพื่อหาเหตุจูงใจ ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มปล้นในพื้นที่จังหวัดปทุมหรือไม่
ส่วนที่เหลืออีก 4 รายได้ให้ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางตำรวจได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง และได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว และจะต้องติดตามจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดให้ได้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าเราจะดำเนินการทั้งอาญาและทางวินัย และไม่ต้องห่วงว่าถ้าใครทำผิดก็ต้องรับโทษทางกฎหมาย ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ
