xs
xsm
sm
md
lg

หมายจับ 3 ตำรวจ 4 พลเรือนตั้งแก๊งรีดไถย่านปทุมฯ เผ่นนอกแล้ว 2 จับได้ 1

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ แก๊งอุ้มรีดทรัพย์ เป็นตำรวจ 3 คนและพลเรือนอีก 4 คน ผู้ต้องหา 2 รายหนีออกนอกประเทศไปแล้ว อีกรายพบเป็นศพที่นครสวรรค์รอตรวจผลดีเอ็นเอยืนยันว่าใช่คนร้ายหรือไม่

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 พ.ค.61 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง.ผบช.ภ. 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวนสภ.คูคต ได้ออกมาจากห้องประชุมหลังจากใช้เวลากว่า 1 โมงชั่วประชุมเร่งรัดคดีคนร้ายอุ้มรีดทรัพย์

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย. เวลา 10.30 น. นายอัษฎายุธ วรากรณ์ มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เมื่อเวลา 01.30 น. ว่า ขณะอยู่ภายในบ้านเลขที่ 50/162 หมู่ 3 หมู่บ้านพฤกษา 57 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีคนร้ายเป็นชาย 7 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนติดตัวเข้ามาภายในบ้านและรื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นแจ้งผู้เสียหายว่าพบยาไอซ์จำนวน 1 ถุง ก่อนบังคับพาผู้เสียหายขับรถออกไปข้างนอก เพื่อเรียกเงิน ทางผู้เสียหายจึงได้มอบสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท กับเงินสด 40,000 บาทให้กับกลุ่มคนร้ายไป กระทั่งเวลา 05.40 น. วันเดียวกัน คนร้ายยอมปล่อยตัวผู้เสียหาย จากนั้นเมื่อได้กลับไปตรวจสอบดูทรัพย์สินภายในบ้าน พบว่ายังมีข้าวของสูญหายไปอีกจำนวนหนึ่ง โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว1คน คือนายพรศักดิ์ เสาวพงษ์ อายุ42 ปี โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีไปก่อนหน้านี้แล้ว และยังมีพลเรือนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีการขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว รวมทังขอถอนหมายจับของนายธนดล รุ่งแสง ที่เจ้าตัวมาพบพนักงานสอบสวนแล้วมีการพิสูจน์ทราบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและปล่อยตัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้วนั้น ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสืบสวนของสภ.คูคต ได้ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหากระทั่งล่าสุดทราบว่า นานพรพิชัย เจริญสุข ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์กระบะฟอร์ต ที่ใช้ก่อเหตุได้หลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว และจากรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายประสิทธิ์ อ่องเอี่ยม 1ในผู้ต้องหาเป็นศพนอนตายอยู่ที่บริเวณ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีบาดแผลถูกยิงที่ท้ายทอย1นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.1, ภ.จว.ปทุมธานี อยู่ระหว่างเดินทางไปพิสูจน์ว่าใช้ศพของนายประสิทธิ์ อ่องเอี่ยม 1ในผู้ต้องหาตามหมายจับหรือไม่เพราะศพเสียชีวิตมาแล้วหลายวันและเริ่มเน่าแล้ว

วันเดียวกันเวลา 14.00น.พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้เรียกประชุมส่วนเกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีโดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว .ปทุมธานี พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนสภ.คูคต กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.1และชุดสืบสวนภ.จว.ปทุมธานี เพื่อเร่งรัดคดีโดยใช้เวลาประมาณ1ชม.ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

ด้านพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง.ผบช.ภ. 1 กล่าวว่าวันนี้เป็นการประชุมเร่งรัดคดีครั้งที่ 2 ก็ได้รับรายงานจากผู้การ จ.ปทุมธานีและทางฝ่ายสืบสวนซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ของอนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับทั้งหมดแล้ว 7 คนและยืนยันว่าในแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ผู้เสียหายนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมด้วยจำนวน 3 คนและพลเรือน 4 ราย ซึ่งคนร้ายได้หนีออกประเทศไปแล้ว 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 รายและพลเรือน 1 ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตถูกตายที่ จ.นครสวรรค์ นั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับคดีแก๊งอุ้มรีดหรือไม่นั้นต้องรอตรวจผลดีเอ็นเออีกครั้ง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถกระบะที่ใช้ในการก่อเหตุแล้วจำนวน 2 คันซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมืออีกครั้ง

สำหรับผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีนั้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทุกหน่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคาดว่า1-2วันนี้ทุกอย่างจะคลี่คลาย สำหรับรถยนต์ของกลางทั้งสองคันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจยึดได้แล้วในพื้นที่นครบาลโดยได้นำเข้าเป็นของกลางในคดีเรียบร้อยแล้วพร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางเก็บลายนิ้วมือแฝงพร้อมดีเอ็นเอภายในรถยนต์ทั้งสองคันเพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น