MGR Online - ตร.พบปมใหม่ “ฆ่าตัวตาย” คดีสาวปล่อยเงินกู้ อำนาจเจริญ กลายเป็นศพถุงคลุมหัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นชิงทรัพย์-ฆ่าล้างหนี้ ตรวจที่เกิดเหตุพบเงินสดติดตัว 8 หมื่น-บัตรเอทีเอ็ม ยาพาราเซตามอล 3 แผงหาย เหลือเพียง 1 เม็ดตกที่พื้นรถคันเกิดเหตุ
วันนี้ (6 เม.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีพบศพนักธุรกิจสาวภายในรถเก๋งที่ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ว่าล่าสุดได้รับรายงานจาก สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2561 เวลา 22.00 น. เพจศูนย์ข่าวกระบอกเสียงอำนาจ และเพจฮักอำนาจ ได้แจ้งว่า พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กข 6485 อำนาจเจริญ เป็นรถที่นางดวงจันทร์ ทวีพันธ์ อายุ 33 ปี ขับขี่ออกมาที่อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ยังไม่กลับบ้าน โดยไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ญาติเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย จึงได้ให้ทั้ง 2 เพจประกาศตามหา ต่อมามีผู้พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ที่ถนนเลียบคลองส่งน้ำบ้านน้ำท่วม ต.เปือย อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลืออำนาจ จึงได้ไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบมีผู้นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณพื้นด้านหลังที่นั่งคนขับ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ตายเป็นผู้ที่กำลังประกาศตามหา จึงได้แจ้งแพทย์และพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอำนาจเจริญร่วมตรวจสอบ โดยสภาพศพถูกคลุมหัวด้วยถุงพลาสติก และมีบาดแผลที่เดียวคือที่เบ้าตาขวาเป็นรอยช้ำ และพบว่ากระเป๋าถือซึ่งมีทรัพย์สินของผู้ตายได้หายไป ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ ทำแผนที่ เก็บพยานหลักฐานแล้วจึงได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ.ลืออำนาจ ได้สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปกว่า 10 ปาก เบื้องต้นแพทย์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ระบุสาเหตุการตายว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายหรือร่องการต่อสู้แต่อย่างใด ส่วนบาดแผลที่ตาข้างขวานั้นเกิดจากการกดทับ และจากการตรวจสอบไม่พบว่าทรัพย์สินของผู้ตายสูญหาย เพียงแต่ในวันเกิดเหตุไม่ได้นำติดตัวออกมาจากบ้านด้วย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถไปซื้อยาแก้ปวดที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งก่อนที่จะมีผู้มาพบเห็นรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาจอดอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ศพผู้เสียชีวิตได้ถูกส่งมาทำการชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ตำรวจแล้ว ทางการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป โดยยังต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพมาประกอบสำนวนต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผบก.ภ.จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จากการสอบปากคำสามีผู้ตายทราบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.ดวงจันทร์ และสามีเดินทางด้วยรถทัวร์ไป จ.ระยอง เพื่อไปซื้อรถตู้ แต่คืนก่อนวันเสียชีวิต น.ส.ดวงจันทร์ ขอสามีกลับบ้านก่อน เพราะมีนัดจะกลับมาปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ ฝ่ายสามีจึงมาส่งขึ้นรถจาก จ.ระยอง มาลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานี ตอนเช้าวันเกิดเหตุ โดยพ่อขับรถไปรับที่สถานีขนส่ง
ระหว่างทาง น.ส.ดวงจันทร์ได้กลับไปหาสามี พร้อมบอกว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ จนกระทั่งเวลา 10.00 น.ในวันเกิดเหตุ น.ส.ดวงจันทร์ได้บอกลูกสาวจะเอาเงินไปให้ชาวบ้านที่ต้องการจะกู้ หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า น.ส.ดวงจันทร์ขับรถเข้ามาในตัวเมืองอำนาจเจริญ แวะร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท.ทางไป จ.ยโสธร ในเวลา 10.30 น. พร้อมซื้อยาพาราเซตามอล จำนวน 3 แผง และขับรถกลับเข้ามาจอดรถที่ศาลหลักเมือง จากการตรวจสอบโทรศัพท์พบมีการโทร.ไปกรุงเทพฯ คุยกับเพื่อนชายคนสนิท 2 ครั้ง ครั้งละประมาท 40 นาที จากการสอบปากคำเพื่อนชายของ น.ส.ดวงจันทร์นั้น พูดทิ้งท้ายลักษณะสั่งเสีย ให้ดูแลตัวเองดีๆ อีกทั้งมีพยานเห็น น.ส.ดวงจันทร์ เมื่อเวลาประมาณ 10.34 น.ขับรถกลับมาจอดที่ศาลหลักเมือง และเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวกับผู้หญิงอีก 2 คน
พล.ต.ต.ถวายกล่าวต่อว่า โดยช่วงเวลา 14.00 น. พบว่าผู้ตายแวะจอดรถที่ตลาดใกล้โรงรับจำนำเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ หลังจากจุดนี้แล้วสัญญาณโทรศัพท์มือก็ไม่สามารถติดต่อได้และหายตัวไป จนกระทั่งไปพบเป็นศพอยู่ในซอยเปลี่ยวข้างคลองน้ำชลประทาน บ้านน้ำท่วม
จากการเข้าตรวจสอบสภาพศพ น.ส.ดวงจันทร์นั้น ภายในรถพบขวดน้ำดื่มวางอยู่ด้านข้างในที่เก็บของข้างเบาะคนขับ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และมียาพาราเซตามอลตกที่พื้นรถ 1 เม็ด ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ แหวนทองยังติดตัวอยู่ที่ศพ น.ส.ดวงจันทร์ มีเพียงบัตรเอทีเอ็ม และเงินสด 80,000 บาทที่หายไปซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะ น.ส.ดวงจันทร์อาจไปปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้ารายใดรายหนึ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งเรื่องชิงทรัพย์ ฆ่าตัวตาย เพราะเท่าที่สอบปากคำญาติ น.ส.ดวงจันทร์มีอาการโรคซึมเศร้า และอีกประเด็นฆ่าล้างหนี้ เพราะก่อนวันเกิดเหตุชาวบ้านพบมีชายหญิง 3 คน มาเดินถามหาบ้าน น.ส.ดวงจันทร์ และบ้านชายหญิงที่มาตามหา น.ส.ดวงจันทร์นั้นอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุพบศพ
โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ส่งชุดสืบสวนเข้ามาสนับสนุน เพื่อเร่งคลีคลายคดีให้แล้วเสร็จเพราะเป็นเรื่องสะเทือนขวัญชาวบ้านเป็นอย่างมาก