xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเกาะลิบงร้องวอนช่วยเหลือ หลังรถกู้ชีพเจ๊งกระทบชีวิตเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชาวเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เดือดร้อนหนัก หลังจากที่รถกู้ชีพเสีย และจอดสนิทมาถึง 2 เดือนแล้ว จนทำให้การขนย้ายผู้ป่วย จากบนเกาะลงเรือ แล้วขึ้นฝั่งไป รพ. เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงขึ้น

วันนี้ (9 พ.ย.) ชาวเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้เดินทางมารวมตัวกันยังหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพทางน้ำเกาะลิบง เพื่อสะท้อนปัญหารถกู้ชีพที่ประสบปัญหาเสียอย่างหนัก จนไม่สามารถซ่อมแซมใช้การได้อีกแล้วมาถึง 2 เดือน จนต้องจอดทิ้งไว้เป็นเศษเหล็กภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เกาะลิบง ส่งผลกระทบให้ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้มีฐานะยากจน หากต้องเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุขึ้น เนื่องจากต้องหันไปใช้รถอื่นๆ เพื่อขนย้ายผู้ป่วยแทน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิต และมีค่าใช้จ่ายที่สูงครั้งละนับพันบาท อย่างเช่นในกรณีที่จำเป็นต้องเหมารถกระบะ หรือเหมาเรือ เพื่อนำผู้ป่วยไปรักษาตัวยัง รพ.บนฝั่ง

นายสุวิทย์ สารสิทธิ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพทางน้ำเกาะลิบง กล่าวว่า เมื่อปี 2555 ได้มีการจัดซื้อรถตู้สภาพค่อนข้างเก่าในราคา 5 หมื่นบาท ที่ได้มาจากการจัดเลี้ยงน้ำชา มาดัดแปลงพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยมาได้กว่า 1,400 เคสแล้ว จากจำนวนประชากรบนเกาะประมาณ 4,000 คน ใน 4 หมู่บ้าน โดยที่ผ่านมา ต้องซ่อมแซมไปแล้วหลายครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุด หมดสภาพถึงขนาดสตาร์ทไม่ติด ปิดประตูไม่ได้ โดยเฉพาะประตูหลังที่ใช้ขนถ่ายผู้ป่วย ต้องเอาไม้มาค้ำไว้ และมีรอยแทบทั่วทั้งคัน แต่เมื่อรถกู้ชีพมาประสบปัญหาเสียแบบนี้ จึงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก
 

 
นายอุสิน โชคอำนวยสิทธิ์ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน รพ.สต.เกาะลิบง กล่าวว่า รถกู้ชีพช่วยชีวิตชาวบ้านได้อย่างมาก เพราะภายในมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรักษาอาการป่วยในเบื้องต้น และเหมาะต่อการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล ซึ่งกว่าเจ้าหน้าที่จะลำเลียงมาถึงท่าเรือบางครั้งก็ใช้เวลานับชั่วโมง หากมีฝนตกหนัก และถนนบนเกาะบางสายก็ยังเป็นลูกรังอยู่ จากนั้น ผู้ป่วยยังต้องลงเรือไปขึ้นฝั่งที่หาดยาว และเดินทางต่อไปยัง รพ.กันตัง ซึ่งใช้เวลาอีกเป็นชั่วโมง แต่หากรถกู้ชีพเสีย ชาวบ้านก็จะต้องใช้รถอื่น เช่น รถจักรยานยนต์ เพื่อขนย้ายผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

นายประชุม เจริญฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านบาตูปูเต๊ะ กล่าวว่า เมื่อก่อนการช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของผู้นำชุมชน แต่หลังจากมีการตั้งหน่วยกู้ชีพขึ้น จึงสามารถแบ่งเบาภาระส่วนนี้ลงไปได้มาก แต่ขณะนี้งานต้องหยุดงะชักมาหลายเดือนแล้ว หลังจากรถกู้ชีพต้องจอดสนิท จนส่งผลกระทบต่อชีวิตชาวบ้าน ที่ผ่านมา เคยนำเสนอปัญหานี้ไปยังหลายหน่วยงาน แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ โดยอ้างข้อติดขัดในด้านต่างๆ ขณะที่ชาวบ้านเองก็ไม่สามารถระดมเงินเพื่อซื้อรถกู้ชีพคันใหม่ได้ เพราะจะต้องใช้ไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท จึงอยากขอวิงวอนไปยังผู้เกี่ยวข้องให้หาทางแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
 


กำลังโหลดความคิดเห็น