จับรายวันแก๊งสกิมเมอร์จีน เปิดแมนชั่นหรูย่านคลองเตยเป็นฐานผลิต

MGR Online - บช.น. แถลงรวบแก๊งสกิมเมอร์ชาวจีนเปิดแมนชั่นหรูย่านคลองเตยเป็นฐานผลิตบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ได้ผู้ต้องหา 4 ราย

วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (สปพ.) พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศารุต แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจบก.สปพ.

ได้ร่วมกันจับกุมแก๊งสกิมเมอร์ชาวจีนเปิดแมนชั่นหรูย่านคลองเตยเป็นฐานผลิตบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ประกอบด้วย นายไป๋ เซี่ยงหนาน (Mr.BAI XIANGNAN) อายุ 30 ปี นายแทน ชุน (MR.TAN JUN) อายุ 40 ปี นานแทน ชู่เก้อ (MR.TAN XUKE) อายุ 35 ปี และ นายปู๋ เซี่ยงเทียน (MR.DU XIANGJIAN) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาทั้งหมดสัญชาติจีน พร้อมของกลาง เครื่องตอกหมายเลขบัตร 1 เครื่อง เครื่องอ่านและบันทึกข้อมูลลงในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 2 อัน เครื่องตกแต่งลายหน้าบัตร 1 เครื่อง เครื่องปรินต์หน้าบัตร โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง โทรศัพท์ 8 เครื่อง เงินสด 107,000 บาท ธนบัตรต่างประเทศจำนวนหนึ่ง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการปลอมแปลงแล้ว 9 ใบ บัตรที่เตรียมไว้สำหรับการปลอมแปลงข้อมูล 5 ใบ บัตรเปล่า 550 ใบ ฯลฯ โดยจับกุมได้ที่ ห้องเลขที่ 706 ร่มโพธิ์แมนชั่น แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจได้ประสานขอข้อมูลกับ นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ได้สืบสวนจนทราบว่า คนร้ายที่นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์มากดเงินนั้น ได้พักอาศัยอยู่ที่ย่านคลองเตย เจ้าหน้าที่จึงติดตามพฤติกรรมจนพบคนร้ายทั้ง 4 คน ได้นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ไปกดเงินตามที่ต่างๆ บ่อยครั้ง ต่อมาวันที่ 29 มี.ค. ได้สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจกองกำกับการสายตรวจเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าวพบผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลคนร้ายกลุ่มนี้ เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเป็นอย่างดี เคยกระทำความผิดลักษณะนี้มาแล้วในหลายประเทศ และจากอุปกรณ์การปลอมแปลงบัตรที่ตรวจยึดได้ข้างต้น ได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้ว พบว่า สามารถใช้ทำปลอมได้ทั้งบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม เมื่อปลอมออกมาแล้วจะมีลักษณะเหมือนจริง สามารถใช้ได้ทั่วไป จากการสืบสวนในเชิงลึกยังทราบอีกว่า คนร้ายระดับสั่งการเป็นชาวไต้หวัน ซึ่งจะขยายผลติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เป็นวิธีการใหม่ที่กลุ่มคนร้ายได้ซื้อข้อมูลมาจากต่างประเทศ ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นในต่างประเทศ การจับกุมครั้งนี้ทำให้สถาบันการเงินต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจไทย นอกจากนี้ ยังได้ประสานข้อมูลกับธนาคารแห่งประเทศไทยและทำงานร่วมกันมาตลอด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลองแปลงบัตรมีผู้นำมาให้จากต่างประเทศ ส่วนบัตรที่ใช้กดเงินนั้นเป็นบัตรของตนเอง

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันมีไว้เพื่อใช้ เครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อดำเนินการส่งพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป