MGR Online - รอง ผบช.ทท.บินข้ามประเทศจับมือตำรวจดูไบ บุกทลายศูนย์สั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบตัวการใหญ่ “ฉีเคอ” ชาวไต้หวัน และคนไทยอีก 23 ราย
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ส่วนหน้า) จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 บช.ทท.และ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเปิดเป็นลักษณะศูนย์สั่งการอยู่ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทยที่เต็มใจไปทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จำนวน 23 คน และผู้ดูแลชาวไต้หวันอีกจำนวน 1 คน ผู้ต้องที่ร่วมกันหลอกลวงชาวไทยในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เหยื่อโอนเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่อยู่ภายในหมู่บ้านวากา 4 ถนนวากา 27 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หลังมีข้อมูลว่าสถานที่ดังกล่าวลักลอบตั้งเป็นศูนย์สั่งการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายของนายฉีเคอ ที่ถูกจับกุมไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยของกลางอุปกรณ์ทั้งโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมทั้งบัญชีรายชื่อเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ที่ยังอยู่ระหว่างการสื่อสารเพื่อรอโอนเงิน และโพยรายชื่อเหยื่อพร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง และบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อในแต่ละสายงาน
พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้เกิดจากความร่วมมือของตำรวจไทย และตำรวจดูไบ เป็นเครือข่ายนายฉีเคอ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ล่าสุดเฉพาะต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีคนไทย 7 รายจากหลายพื้นที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปกว่า 1 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศก.ฉปทน.ตร.) ได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายไทย 7 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีทั้งรับจ้างเปิดบัญชี ผู้รวบรวมบัญชี และมีหน้าที่กดเงินออก รวมทั้งนายฉีเคอตัวการใหญ่ชาวไต้หวันที่ลักลอบเข้ามากบดานอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 20 ปี มีหน้าที่จัดหาและรวบรวมคนไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจากการสอบสวนขยายผลจนทราบว่าก่อนที่นายฉีเคอจะถูกจับกุม นายฉีเคอยังได้รวบรวมพนักงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วจัดส่งให้เดินทางไปเช่าบ้านเดี่ยวหรูในหมู่บ้านวากา 4 ถนนวากา 27 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเป็นศูนย์สั่งการคอลเซ็นเตอร์ โดยมีชาวไต้หวันทำหน้าที่คอยควบคุมดูแล ทำมาได้ประมาณ 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท และเมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2561 แก๊งดังกล่าวนี้ได้โทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงคนไทยจำนวน 7 ราย ได้เงินไปกว่าล้านบาท มีผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่ สน.เตาปูน ดินแดง สภ.เมืองสมุทรปราการ สน.คลองตัน สภ.ฝาง สภ.ปราณบุรี และเมืองขอนแก่น
การทำงานของแก๊งนี้มีการนำเทคโนโลยีพิเศษมาใช้ หลังจากหลอกเหยื่อสำเร็จแล้วจะวางอุบายเพื่อขอ OTP จากบัญชีธนาคารของเหยื่อ แล้วหลอกให้อ่านข้อความที่ธนาคารแจ้งยืนยันมา เมื่อเหยื่อบอก OTP ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้จะนำ OTP นี้เข้าโปรแกรมดัดแปลงทำให้คอมพิวเตอร์เปรียบเสมือนเป็นมือถือเครื่องหนึ่งเข้าบัญชีธนาคารของเหยื่อแล้วโอนเงินออกไปยังปลายทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ได้เตรียมไว้จนหมด เช่น bitcoin หรือบัญชีอื่นๆ แล้วถอนเงินออก นำส่งหัวหน้าแก๊งเพื่อแบ่งเงินตามเปอร์เซ็นต์ที่ได้ตกลงกันไว้ภายในกลุ่ม
สำหรับนายฉีเคอ ชาวไต้หวันเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีมาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 20 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตัวเองได้เนื่องจากมีประวัติต้องคดีที่ไต้หวัน ทำหน้าที่คอยรวบรวมคนเข้ามาทำงานคอลเซ็นเตอร์ รวบรวมบัญชีที่ใช้กดเงิน ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงภายในแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ยังกล่าวอีกว่า การทำงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทางการดูไบเป็นอย่างดีจนทำให้เราสามารถขยายผลจนจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง และจะประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีกและขอส่งตัวคนไทยทั้งหมดกลับประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีต่อไป