MGR Online - “องอาจ ธรรมนิทา” อดีตโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ให้การปฏิเสธคดียุยงปลุกปั่น แถลงข่าวค้านดีเอสไอบุกค้นวัดพระธรรมกายปี 59 ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก 22 ม.ค.ปีหน้า
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานและสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.3951/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายองอาจ ธรรมนิทา อายุ 36 ปี อดีตโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เป็นจำเลยในความผิดทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีใดอื่นมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อแสดงความเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อความไม่สงบ หรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
กรณีเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้จัดประชุมเจ้าหน้ารัฐเพื่อตรวจค้นจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตามหมายจับศาลอาญา โดยจำเลยเป็นโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายได้แถลงข่าวระบุถึงสถานการณ์ส่อจะเกิดความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนามาจากการดำเนินการของพนักงานสอบสวนคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่เกี่ยวโยงกัน ไม่มีความเป็นธรรมหลายประการ และมีเจตนากลั่นแกล้ง ทำให้ประชาชนที่เห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าพนักงานของรัฐกระทำการรุนแรงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แกล้งดำเนินคดีต่อวัดพระธรรมกาย อันเป็นการกระทำเพื่อก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนที่จะเกิดความไม่สงบ หรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เหตุเกิดที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
วันนี้ อัยการโจทก์ และนายองอาจ ธรรมนิทา จำเลยซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ
ศาลสอบคำให้การจำเลยแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อัยการโจทก์เสนอพยานบุคคลเข้าสืบพยานจำนวน 20 ปาก ใช้เวลาสืบ 6 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยเสนอพยานบุคคลเข้าสืบพยานจำนวน 7 ปาก ใช้เวลาสืบ 3 นัด ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต โดยให้สืบพยานโจทก์เป็นเวลา 5 นัด สืบพยานจำเลย 2 นัด และสืบพยานโจทก์-จำเลย ในวันเดียวกัน 1 นัด ส่วนที่จำเลยยื่นขอให้ศาลพิจารณาลับหลังนั้น โจทก์ไม่คัดค้าน ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลย ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ต่อมาคู่ความได้นัดตกลงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 22 ม.ค. 2562 เวลา 09.00 น.