MGR Online - ปส.แถลงผลงานจับยาเสพติด 7 คดี จับกุมผู้ต้องหา 13 คน ทั้งไอซ์ 447 กิโลกรัม เฮโรอีน 304 กิโลกรัม ยาบ้า 526,450 เม็ด และยาอีชนิดใหม่ลายการ์ตูน นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ อ้างช่วยปลุกเซ็กซ์
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 13.10 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเนิด ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.กิตติ สะเภาทอง ผบก.ปส.4 น.อ.พงศ์วุฒิ เอี่ยมละออ ผอ.กอง 12 ผู้แทนศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายอุดมชัย โลหะนุต นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. นายเดชา วิชัยดิฐ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม ผู้แทนกรมศุลกากร สำนักงาน ปปง. และนายนิติกร ภัสกรพินิจ ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 7 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหา 13 คน ยึดของกลาง เช่น ไอซ์ 447 กิโลกรัม เฮโรอีน 304 กิโลกรัม ยาบ้า 526,450 เม็ด และยาอี 5,731 เม็ด โดยมีคดีที่น่าสนใจดังนี้
คดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ร่วมกันจับกุม นายส้อปิอี จิราวรรณ์ อายุ 52 ปี ที่อยู่ 343 หมู่ 3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และนายอรุณ ชูชื่น อายุ 24 ปี ที่อยู่ 9/1 หมู่ 5 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วยของกลางไอซ์น้ำหนักรวม 432 กิโลกรัม รถยนต์กระบะบรรทุก และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าบ้านคนงานไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดของกลางยาเสพติดวางซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร และอยู่ในกระบะบรรทุกของรถยนต์โดยใช้ผ้าห่มและผ้าใบคลุมปกปิดไว้ จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ร่วมกับ บก.ปส.4 บช.ปส. บก.ขส.บช.ปส. สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 สำนักสืบสวนและปราบปราม เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 4 เจ้าหน้าที่ทหารชุด มว.ชป.มว.รส.จว.สงขลา เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ศป.ปส.ทรภ.2 ได้ร่วมตรวจยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) จำนวน 15 ห่อ บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาล น้ำหนักรวมประมาณ 15 กิโลกรัม บริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ร่วมกับ บก.ปส.4 บช.ปส. บก.ขส.บช.ปส. สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 สำนักสืบสวนและปราบปราม กก.6 บก.ป. ทล.5 กก.7 ชปส.ภ.จ.นราธิวาส, สภ.บาเจาะ จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 4 เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ศป.ปส.ทรภ.2 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 กก.7 บก.รน. ได้ร่วมกันจับกุม นายต่วนอับดุลฟีตะห์ ยูโซะ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 111/4 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นายกูรอเซะ กูจิ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 3/2 หมู่ 4 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และนายบาฮารี ดือราแม อายุ 27 ปี ที่อยู่ 41/3 ถนนสะบารัง ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี พร้อมของกลาง เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 304 กิโลกรัม ยาบ้า 550 เม็ด รถยนต์บรรทุกสิบล้อ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ Smith & Wesson ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 3 นัด พบบรรจุอยู่ในซองกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณด่านตรวจบาเจาะ ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จว.นราธิวาส และจับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณร้านอาหารเบญ สาขา 2 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ สังเกตพบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์สะกดรอยติดตามไปและประสานงานไปที่ด่านตรวจบาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อเรียกรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษของกลางรายการที่ 1 วางอยู่ในกระบะบรรทุกโดยมีผ้าใบปิดคลุมปกปิดไว้เพื่อ อำพรางการตรวจค้นจากเจ้าพนักงานตำรวจประจำด่านตรวจในเส้นทางจึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป
คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414 สภ.ท่าแซะ กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 และกก.สส.จว.ชุมพร ได้ร่วมกันจับกุม นายถนัด หรือบังเอียด อ้นชู อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/4 ม.10 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และนายสมชาย เพชรกลาย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 ม.10 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมของกลางยาบ้า 29,900 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าสะพาย สีดำ 2 ใบ กางเกงยีนส์ 1 ตัว ตั๋วโดยสารบริษัท ขนส่ง จำกัด สายที่ 0984 กรุงเทพ-ตรัง-สตูล 2 ใบ สำเนาตารางจองที่นั่งรถโดยสาร 3 ใบ จับได้บริเวณที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หมู่ที่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร (ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 451-452) ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี
คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414 และ สภ.ท่าแซะ ได้ร่วมกันจับกุม นายรัสลัน หรือเป้ ดือเร๊ะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/5 ถ.สามัคคี ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี และ น.ส.ไชหนับ บากา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.1 ต.สาบัน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 90,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้โดยบริเวณที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หมู่ที่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร (ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 451-452) นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน และดำเนินคดี
คดีที่ 6 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ ศวข.สข.บก.ขส. บก.ขส. เจ้าหน้าที่ทหารกอง 12 ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สงขลา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 4 เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ศป.ปส.ทรภ.2 เจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุม นายสุไลมาน ดือราแม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212/46 ถ.โต๊ะลือเบ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 406,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องจับกุม จับกุมได้ที่บริเวณภายในบ้านเลขที่ 297/4 ม.2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี
คดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 นำโดย พ.ต.อ.ภวินทร์ ภานุมาส ผกก.2 บก.ปส.1 พ.ต.ท.ธีราณัติ เกตุมี พ.ต.ท.โชคชัย วระศาสตร์ รอง ผกก.2 บก.ปส.1 พ.ต.ท.วรศักดิ์ รอดสัมฤทธิ์ พ.ต.ท.ชานุ พิมพ์หนู สว.กก.2 บก.ปส.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.อัมพิกา หรืออ้อแอ้ ปะติตัง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 1 ต.บ้านต้อน อ.รัตนาวาปี จ.หนองคาย น.ส.วรารัตน์ หรือแอ๋มจันทมาส อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ซ.หลังแฟตล 2 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และนายทรงพล ทมิยะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/37 หมู่ที่ 4 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 100/2561 ลงที่ 11 มี.ค. 2561 ผู้ต้องหาที่ 3 พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวนประมาณ 5,731 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครือง และกระเป๋าเป้สะพายและกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 บริเวณริมฟุตปาธหน้าร้านค้าสวัสดิการ สโมสรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้นที่ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 บริเวณหน้าประตู 7 ทางออก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยพฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับและจากการสืบสวนทราบว่า น.ส.อัมพิกา น.ส.วรารัตน์ และนายทรงพล มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดประเภทยาอีเข้ามาในราชอาณาจักรจากประเทศเนเธอร์แลนด์บ่อยครั้ง และจากการตรวจสอบพบว่านายทรงพลได้เดินทางไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา และจากการสืบสวนและตรวจสอบพบว่า น.ส.อัมพิกา และน.ส.วรารัตน์ และนายทรงพลมีการจองตั๋วเครื่องบินและจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงวางแผนในการสะกดรอยตาม กระทั่งพบ น.ส.อัมพิกา และน.ส วรารัตน์ เดินออกจากเครื่องเพื่อรอรับกระเป๋าามภาระที่สายพานหมายเลข 23 เมื่อทั้งสองได้รับกระเป๋าแล้ว น.ส.อัมพิกาได้เปิดกระเป๋าเดินทางและหยิบเอากระเป๋าสะพาย มาสะพาย และเดินลงไปบริเวณ ชั้น 1 จุดขึ้นรถแท็กซี่โดยมีพฤติการณ์ระแวดระวังสังเกตบุคคลที่เดินเข้าไกล้ มีพฤติการณ์น่าสงสัยและเชื่อว่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนมาด้วยในกระเป๋าสัมภาระ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้นผู้ต้องหาทั้งสอง ผลการตรวจสอบค้นพบยาเสพติดของกลางยาอีซุกซ่อนในกระเป๋าเป้สะพายที่ น.ส.อัมพิกาสะพาย จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมยาเสพติดของกลางมายังที่ทำการจัดทำบันทึกการจับกุม แจ้งสิทธิให้ทราบและแจ้งข้อหาให้ทราบว่าร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และพนังงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองและสอบสวนปากคำผู้กล่าวหาและพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายทรงพลไปขออนุญาตศาลอาญาออกหมายจับนายทรงพล ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีสุดท้ายซึ่งเป็นการจับกุมยึดของกลางเป็นยาอี จากการตรวจสอยพบว่าเป็นยาอีที่
ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ซึ่งแตกต่างจากยาอีทั่วไป เนื่องจากมีลักษณะเป็นรูปหน้าตัวการ์ตูน มีการลักลอบจำหน่ายตามสถานบันเทิงในราคาเม็ดละ 600 บาท แพงกว่ายาอีทั่วไปที่จำหน่ายกันในราคาเม็ดละ 400 บาท อีกทั้งยาอีที่นำเข้ามานั้นยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศอีกด้วย