xs
xsm
sm
md
lg

รถหายต้องได้คืน! “บิ๊กหยม” ควง “รองหลวง” จับหัวโจกแก๊งลักรถระดับประเทศ ผู้เสียหายน้ำตาคลอหลังหายร่วม 2 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.น.- รองหลวง ควงแขนตั้งโต๊ะแถลงโชว์ผลงาน ศปจร.น. ไล่บี้รวบแก๊งลักรถลำดับต้นของประเทศ ตระเวนก่อเหตุโชกโชนใน กทม.- ปริมณฑล กว่า 28 ครั้ง เผย พฤติการณ์แก๊งนี้ได้ออเดอร์จากนายทุนรายใหญ่ทางภาคใต้ ก่อนส่งมอบรถถูกขโมยไปให้กับ 2 เจ้าของผู้เสียหาย จ.ฉะเชิงเทรา เล่าทั้งน้ำตา รับหมดหวังที่ได้จะรถคืนแล้วหลังหายไป 2 เดือน ขอบคุณ ตร. ที่จับคนร้ายได้

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. หัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (หน.ศปจร.บช.น.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปจร.น. พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รองผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวจับเครือข่ายโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คือ นายชาญชัย อ่อนศิริ อายุ 39 ปี ทำหน้าที่ดัดแปลงเปลี่ยนกุญแจรถใหม่ และหาแหล่งซุกซ่อนรถที่โจรกรรม นายอนันต์ น้อยเคน อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 71-72/2561 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร และ นายธวัชชัย มรกต อายุ 31 ปี ข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม พร้อมของกลางรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ติดป้ายปลอม ทะเบียน ตล 175 กรุงเทพมหานคร และติดป้ายภาษีปลอม และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฆน 904 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเครือข่ายโจรกรรมรถยนต์แก๊งนี้ ได้ตระเวนก่อเหตุลักรถในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะรับงานมาจากนายทุนในพื้นที่ภาคใต้ ทาง ศปจร.น. จึงประสานข้อมูลกับ บช.ภ. 1 บช.ภ.2 และ บช.ภ.9 จนกระทั่งวันที่ 17 ก.พ. ชุดสืบสวนสามารถจับกุมนายอำพล ศรีสวัสดิ์ อายุ 46 ปี และ น.ส.ลัดดาวรรณ วงศ์ศักดิ์ อายุ 31 ปี ภรรยา นายอำพล ได้ที่จุดตรวจค้นบริเวณริมถนนเอเซีย 41 ขาล่องใต้ ม.6 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ขณะขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ พร้อมของกลางดังกล่าวเตรียมส่งนายทุน ทางผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ. คนร้าย 3 คน ใช้พาหนะรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน ตล 175 กทม. มาก่อเหตุขโมยรถฟอร์จูนเนอร์ ที่จอดไว้ในซอยบรมราชชนนี 4 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. จากนั้นคนร้ายทั้งคู่ได้ขับรถนำไปขายทางภาคใต้ที่ จ.สงขลา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า นำรถมาจากบ้านของนายเชี่ยวชาญ หรือ เก่ง กียะสูตร บ้านเลขที่ 35/2 หมู่ 6 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จากการขยายผลนายเชี่ยวชาญ ให้การว่า นายปู หรือต๋อง ปิ่นทอง อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งลักรถ ได้หนีกบดานทางภาคใต้ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ชุดจับกุมสามารถขยายผลจับกุมนายอนันต์ หนึ่งในแก๊งลักรถจะทำหน้าที่นำรถไปซ่อนเพื่อรอจำหน่าย และ นายธวัชชัย ทำหน้าทีขับรถพาเพื่อนร่วมแก๊งไปโจรกรรมรถและคอยดูต้นทาง สามารถจับทั้ง 2 คนได้ ขณะขับรถกระบะอีซูซุ ขณะเตรียมก่อเหตุลักรถในพื้นที่ สน.ดอนเมือง จากนั้นขยายผลจับนายชาญชัย ทำหน้าที่ดัดแปลงเปลี่ยนกุญแจรถใหม่ และหาแหล่งซุกซ่อนรถที่โจรกรรม ได้ที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จากการตรวจสอบพบว่า นายต๋อง ปิ่นทอง เคยติดคุกในคดีรับของโจรออกจากเรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเดือน ส.ค. ปี 60 จากนั้นได้รวบรวมเพื่อนที่เคยติดคุกในคดีลักทรัพย์มาก่อเหตุขโมยรถกระบะ ส่งขายตามชายแดน จ.ตาก และ จ.สงขลา เคยก่อเหตุมาแล้ว 28 ครั้ง พบหลักฐานชัดเจนแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ สน.ร่มเกล้า จำนวน 1 คัน พื้นที่ บช.ภ.1 จำนวน 1 คัน และพื้นที่ บช.ภ.2 จำนวน 2 คัน ทั้งหมดยังเกี่ยวข้องกับแก๊งปลอมแปลงเอกสารราชการรายใหญ่ซึ่ง ศปจร.น. จับกุมไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุโจรกรรมจากพื้นที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำตัว นายชาญชัย และ นายอนันต์ ส่ง สน.บางพลัด ดำเนินคดี นายธวัชชัย นำส่ง สน.ดอนเมือง ดำเนินคดี

ขณะที่ นางวินิต พุกมงคล อายุ 66 ปี ผู้เสียหายเดินทางมารับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวทั้งน้ำตาคลอ ว่า ตั้งแต่วันรถหายก็ไม่ได้หวังว่าจะได้คืนแล้ว ซึ่งรถเป็นของลูกชายซื้อต่อมาจากญาติแล้วผ่อนไฟแนนซ์เดือนละ 8,000 บาท และได้หายไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 61 ตอนเวลา 23.00 น. ขณะจอดไว้ที่หน้าร้านซ่อมรถหน้าวัดบ้านนา อ.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังจากรถหายก็ต้องผ่อนเงินต่อ เนื่องจากติดไฟแนนซ์และเพิ่งเริ่มจะผ่อนได้เพียง 2 เดือน เคยไปเจรจากับทางไฟแนนซ์แล้วแต่ไม่ยอม กลับบอกว่ารถหายก็ต้องผ่อนจนกว่าจะหมด 2 ปี ตามสัญญาที่ทำไว้ ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจบช.น.มากที่ช่วยติดตามรถคืนมาได้ ด้าน น.ส.ชลธิชา ไชยหาบุตร อายุ 47 ปี ผู้เสียหายอีกรายที่ได้รถฟอร์จูนเนอร์คืน เปิดเผยว่า ดีใจมากและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามนำรถมาคืนตนได้ภายใน 5 วัน


กำลังโหลดความคิดเห็น