MGR Online - ป.ป.ท.เผยพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร สรุปสำนวน ส.ต.ต.จราจรกลางรีดเงินเด็กแว้น ภายใน 30 วัน สอบขยายผลพบมีตำรวจมากกว่า 1 นายร่วมต่อรอง โฆษก สตช.ระบุสิบตำรวจตรีหนุ่มพบอุปกรณ์เสพยาในรถผู้ร้องจึงวางแผนเรียกเงิน ลั่นดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป) จับกุม ส.ต.ต.เฉลิมชัย ยอดแก้ว อายุ 27 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.วิภาวดีรังสิต ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน แลกการไม่ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์และจราจร ตามมาตรา 149 ตามที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความในท้องที่ สน.สุทธิสาร
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปปป.ได้ร่วมกันจับกุมตัว ส.ต.ต.เฉลิมชัย ยอดแก้ว ผบ.หมู่ จร.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต กก.2 บก.จร. ว่าได้รับรายงานจาก สน.สุทธิสาร ว่านายฐิรณิณท์ ทากางิ อายุ 16 ปี พร้อมนายวาริศ รัตนวงศ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อสำนักงาน ป.ป.ท.ว่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 61 เวลาประมาณ 14.00 น. นายฐิรณิณท์ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเรียกตรวจค้นพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยให้นายฐิรณัณท์นำเงินมาให้ภายหลัง
ต่อมานายฐิรณัณท์พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้เข้าแจ้งข้อเท็จจริงต่อตำรวจ บก.ปปป. จึงได้วางแผนการจับกุม โดยให้นายฐิรณัณท์นำเงินจำนวน 10,000 บาท ที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตู้จราจร สน.วิภาวดีฯ ใต้สะพานทางแยกสุทธิสาร โดยมี ส.ต.ต.เฉลิมชัย ยอดแก้ว เป็นผู้มารับเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นพบของกลางเงินธนบัตรที่ลงประจำวันไว้ จึงทำการจับกุมตัวพร้อมของกลาง โดยกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือจะยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ส่ง พงส.สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าในยุคปฏิรูปตำรวจจะต้องไม่มีข้าราชการตำรวจนายใดประพฤติตนทุจริต ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ต่างๆ จะต้องปฏิบัติงานด้วยความสุจริตเป็นธรรมบริการประชาชนด้วยใจ โดยให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 หากพบตำรวจนายใดมีพฤติกรรม เรียกรับผลประโยชน์ ประพฤติมิชอบ ทุจริตคอร์รัปชัน จะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น พร้อมทั้งขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา และให้ช่วยกันร้องเรียนหากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว
ด้านนายเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ทาง สน.สุทธิสาร จะแจ้งข้อหาและใช้เวลา 30 วัน เพื่อสรุปสำนวนคดีนี้พร้อมขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ จากนั้นจะส่งให้ทาง ปปท.สรุปผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป วันเกิดเหตุมีผู้อ้างตัวเป็นตำรวจเกี่ยวข้อง 2 นาย แต่วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมารับเงินเพียงคนเดียว เชื่อว่าจำนวนเงินที่ตกลงกันนั้น มีการเจรจากันหลายรอบ จากเดิมที่ 20,000 บาท ลดตัวเลขลงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ 10,000 บาท ซึ่งจะได้ขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ ต่อไป