MGR Online - “ศรีวราห์” ประชุมหัวหน้าชุดพญาเสือ ตามคดี “เปรมชัย” กับพวกล่าสัตว์ป่า พบมีดีเอ็นเอเสือดำติดอยู่ทั้งบนมีดพก มีดอีโต้และเขียง คดีคืบแล้ว 95% ส่วนอุจจาระที่พบ ผลการตรวจพบเป็นอุจจาระของมนุษย์ แต่ไม่พบดีเอ็นเอของเสือดำ
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาลักลอบล่าสัตว์ป่า โดยเร่งรัดผลตรวจชิ้นเนื้อ คราบเลือดและร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มาให้ปากคำเพิ่มเติมในประเด็นผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานและวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 6 และ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ได้รับผลตรวจกลับมายังไม่ครบถ้วน รวมถึงขอข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของพยานหลักฐานที่ส่งพิสูจน์ที่กรมอุทยานฯ ว่าวัตถุพยานแต่ละชิ้นพบที่ไหนอย่างไรในส่วนที่นายชัยวัฒน์สามารถตอบได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานหลังลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบมีดพก 2 เล่มในที่เกิดเหตุ มีดีเอ็นเอเสือดำบนมีด แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะใช่อาวุธที่ใช้ชำแหละและหั่นกระดูกเสือดำได้ จึงสอบปากคำอย่างละเอียดจนทราบว่าในที่เกิดเหตุยังมีมีดอีโต้และเขียง ซึ่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานฯ ยืนยันว่ามีดีเอ็นเอเสือดำติดอยู่ทั้งบนมีดพก มีดอีโต้และเขียง แต่จากการสอบถามไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้รับรายงานว่าได้รับมีดพกและมีดอีโต้มาตรวจแล้วแต่ยังขาดเขียง โดยผลตรวจระบุว่ามีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ใช้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเสือดำตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้การตรวจดีเอ็นเอบุคคลไม่ชัดเจนเพราะถูกทำลายไป จึงไม่พบดีเอ็นเอที่ตรงกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่วนอุจจาระที่พบผลการตรวจพบเป็นอุจจาระของมนุษย์ แต่ไม่พบดีเอ็นเอของเสือดำ อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันแม้ว่าดีเอ็นเอจะไม่ตรง แต่สำนวนคดีขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 95 ซึ่งหลักฐานแน่นหนาพอที่จะเอาผิดต่อนายเปรมชัยและพวกทั้ง 9 ข้อหา โดยจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ทันภายในวันที่ 24 มี.ค.นี้
ด้านนายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า หลักฐานเดิมที่มีอยู่ตอนนี้เพียงพอที่จะฟ้องอยู่แล้ว ที่เจ้าหน้าที่หาหลักฐานเพิ่มและเชื่อมโยงกันได้ ทำให้กระบวนการสอบสวนเห็นภาพชัดเจนขึ้น การตรวจบางอย่างต้องใช้เวลาซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำให้เร็วที่สุด สำหรับวันนี้ตนได้นำรายงานพฤติการณ์ของนายเปรมชัยกับพวก พร้อมผลการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ การจำลองเหตุการณ์ พร้อมภาพถ่ายแผนที่และอื่นๆ มามอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอบนมีดอีโต้ มีดทำครัว และเขียงนั้นจะดำเนินการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ส่งรายงานให้พนักงานสอบสวนอย่างเป็นทางการภายในวันนี้