ผู้การฯ เมืองกาญจน์ ย่องพบ ผบช.ก. ชี้แจงคดีหวย 30 ล้าน ด้านกองปราบฯ เตรียมนำสำนวน แจ้งความต่อ ปปป. เพื่อพิจารณาส่งต่อ ป.ป.ช. หรือจะดำเนินการเอง ด้าน ผบ.ตร. สั่งโอนคดีหวยอลเวงอีก 5 คดี ให้ บช.ก. ดำเนินการ ประเดิมคดี “เจ๊เรวดี” แจ้งจับเพื่อน อ้างถูกหวย 30 ล้าน 2 ปีซ้อนแต่ถูกขโมย ส่อโดนข้อหาแจ้งความเท็จ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในส่วนของตนเองที่เข้าไปพัวพันกับการแก้ไขสำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน อย่างไรก็ตาม หลังการเข้าพบไม่นานนัก พล.ต.ต.สุทธิ ได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีในส่วนของ พล.ต.ต.สุทธิ นั้น มีรายงานว่า ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะนำสำนวนการสอบสวนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จากนั้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะพิจารณาสรุปสำนวนก่อนส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการพิจารณาว่า ป.ป.ช. จะดำเนินการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนเอง หรือว่าจะส่งกลับมาให้ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของคดีการแย่งชิงกรรมสิทธิ์การครอบครองสลากกินแบ่งรัฐบาลคดีอื่นๆ อีก 5 คดี ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าไปสืบสวนเพื่อหาความกระจ่างด้วยนั้น มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เซ็นคำสั่งอนุมัติโอนคดีสลากกินแบ่งอีก 2 คดี มาให้ บช.ก. ดำเนินการสืบสวนสอบสวนแต่ฝ่ายเดียวเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดแล้ว ประกอบด้วย
คดีแรก คือ คดีที่ นางเรวดี หาแก้ว และ นางวิไลพร รัตนะติสร้อย ได้เข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ขณะดำรงตำแหน่ง ผบช.น. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่า นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ เพื่อนสนิทที่เข้าหุ้นซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำวันที่ 1 เมษายน 2559 รวมมูลค่า 30 ล้านบาท ได้เชิดสลากหายไป
คดีนี้ นางเรวดี อ้างว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. 59 ตนเองพร้อมด้วย นางวิไลพร และ นางสุดารัตน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทกัน ได้เดินทางไปทำบุญที่วัดลาดบัวขาว แขวงและเขตสะพานสูง กทม. และได้รวมเงินกันซื้อสลากกินแบ่งจำนวน 5 คู่ดังกล่าว โดยมีนางสุดารัตน์เป็นผู้เก็บสลากกินแบ่งไว้ แต่เมื่อประกาศผลรางวัลแล้วได้เชิดหายไป และได้มีการแจ้งความไว้ที่ สน.ประเวศ
คดีที่สอง คือ คดีที่ นางเรวดี หาแก้ว คนเดียวกันกับคดีแรก ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นางจรูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี โดยกล่าวหาว่า นางจรูญ ยักยอกลอตเตอรีรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เม.ย. 2560 หมายเลข 392785 จำนวน 5 คู่ มูลค่า 30 ล้านบาท ที่อ้างว่าเป็นลอตเตอรี่ที่ร่วมกันซื้อขณะไปทำบุญที่คำชะโนด จ.อุดรธานี แต่ท้ายที่สุดพนักงานสอบสวนมีคำสั่งไม่ฟ้องนางจรูญ เนื่องจากได้ทำเรื่องไปตรวจสอบที่กองสลากแล้วไม่มีผู้ใดนำสลากตามคำที่กล่าวอ้างมาขึ้นรางวัล
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา นางจรูญ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางเรวดี และ นางวิไลพร รัตนะติสร้อย ในข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้ จากการสืบสวนในเบื้องต้นชุดสืบสวนของกองปราบฯ พบข้อพิรุธมากมายในส่วนของนางเรวดี และมีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าการแจ้งความกล่าวหาของนางเรวดีทั้งสองคดีนั้นไม่ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดความสับสนและผู้ที่ถูกสลากจริงอาจจะได้รับความเสียหาย
ขณะนี้หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ลงนามโอนสำนวนคดีมาแล้ว พล.ต.ท.ฐิติราช ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนกองปราบฯ รวบรวมพยานหลักฐานอย่างเร่งด่วนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าในส่วนของทั้งสองคดีนี้พนักงานสอบสวนจะสามารถรวมรวบรวมขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ภายในกลางเดือนนี้