รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ตอน เปิดลึก! ล่าความจริงหวย 30 ล้าน กู้ 4 พันข้อมูลคุยโทร. เจอแผนโกง!
คดี “หวย 30 ล้านอลเวง” ที่คนไทยให้ความสนใจข่าวนี้กันมาก ต่อเนื่องและเรตติ้งไม่ตกมาเป็นเวลานานหลายเดือน ขณะนี้รอลุ้นกันด้วยใจระทึก ยิ่งงวดใกล้จะรู้ผลสรุปคดีก็ตื่นเต้นชวนติดตามมากขึ้น อาจจะเป็นวันนี้หรือในสัปดาห์นี้ที่กองปราบปรามจะฟันธงหวยชุด หมายเลข 533726 รางวัลที่หนึ่งงวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 มูลค่า 30 ล้านบาท ชุดปัญหายื้อแย่งกันอลเวงนี้...เป็นของใคร?
ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตตำรวจที่เป็นคนครอบครองหวย กับฝ่าย นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูเซียนหวย ผู้อ้างเป็นเจ้าของหวยชุด 30 ล้าน แต่ทำหล่นหาย และเป็นคนเปิดคดีไปแจ้งความเอาผิดต่อ ร.ต.ท.จรูญ
“ครู” หรือ “ตำรวจ” ใครจะรวยหรือร่วง คำตอบกำลังจะเฉลยว่าใครจะเป็นเจ้าของหวยตัวจริง และแน่นอนอีกฝ่ายก็จะกลายเป็นคนลวงโลก แทนที่จะได้เงินล้านอาจจะต้องได้คดีแทน
หวยเป็นเรื่องได้เสีย คดีหวย 30 ล้านอลเวง ก็มีเดิมพันได้เสียสูงมาก นอกจากคู่กรณีระหว่างครูกับพวกอีก 4-5 คนกับ ร.ต.ท.จรูญ อดีตตำรวจแล้ว ทางด้านตำรวจก็ต้องเดิมพันกันระหว่างกองปราบปราม กองบัญชาการสอบสวนกลาง กับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
เพราะก่อนหน้านี้ ภูธร 7 เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุและเจ้าของคดี สรุปคดีไปแล้วว่าหวยเป็นของครูปรีชา ส่วนทางสอบสวนกลาง มีแนวโน้มจะชี้ไปอีกทางคือหวยเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ
ว่ากันว่า ตำรวจภูธรภาค 7 มีความบกพร่องในการทำการสืบสวนสอบสวนคดี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้น้ำหนักไปที่พยานจำนวน 3 ปาก รายแรกคือพยานที่ระบุว่าเป็นผู้พบเห็น ครูปรีชา เดินอยู่ที่ตลาดเรดซิตี้
และเห็นสลากฯหมายเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 โผล่มาจากกระเป๋าเสื้อจึงเอ่ยขอแบ่งซื้อจำนวน 2 ใบ แต่ครูปรีชา ไม่ยอมแบ่งขายให้ โดยพยานปากนี้อ้างว่าจำหมายเลขที่เห็นทั้ง 6 ตัวได้อย่างชัดเจน
ส่วนพยานรายที่สองเป็นพยานที่ระบุว่า พบเป็น ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บสลากฯที่ตกอยู่บนพื้นระหว่างที่เดินอยู่ในตลาดเดียวกันและเป็นเวลาไล่เลี่ยกันกับพยานคนแรก สำหรับพยานปากสุดท้ายให้การว่าขณะที่อยู่ในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ยินหญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นภรรยาของ ร.ต.ท.จรูญ พูดขึ้นมาว่าสามีของตนเองเก็บสลากฯรางวัลที่ 1 ได้
จากปากคำของพยานทั้ง 3 ปากทำให้ตำรวจภูธรภาค 7 เห็นว่าสลากฯดังกล่าวน่าจะเป็นของ นายปรีชา จึงแถลงข่าวใหญ่โต ค้านกับความรู้สึกกับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะตำรวจกองปราบปรามที่ร่วมทำคดีมาแต่แรก
ด้วยที่ ตำรวจภูธรภาค 7 ไม่ได้นำหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจกองปราบฯสืบสวนไว้มาประกอบ จึงทำให้เนื้อหาสำคัญในสำนวนการสอบสวนเกิดความคลาดเคลื่อน เพราะฟังแต่เพียงปากคำของพยานเท่านั้น และพยานทั้งสามก็เป็นเพียงพยานแวดล้อม ซึ่งพยานลักษณะนี้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
เมื่อกองปราบฯ รับสำนวนมาก็เรียกพยานฝั่งครูปรีชา 9 คน มาสอบร่วม 10 ชั่วโมง เฉพาะพยานที่ตอนแรกอ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บหวย แต่เมื่อถูกสอบเค้นหนักเข้าจึงกลับคำให้การว่าเห็นคนก้ม แต่เห็นไม่ชัดว่าเป็นใครก้มเก็บอะไร
ส่วนพยานอีกคนบอกว่าขอซื้อหวยรางวัลที่ 1 ของครูปรีชาขณะเดินอยู่ในตลาดเรดซิตี้ ก็ขัดแย้งทั้งเวลาและสถานที่ เพราะเขาอ้างว่าขอซื้อสลากครูปรีชาในวันที่ 30 พ.ย. 60 ซึ่งวันดังกล่าวนั้นตลาดเรดซิตี้ไม่ได้เปิดขายของแต่อย่างใด
ส่วนนางรัตนพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ที่อ้างว่าขายหวยให้ครูปรีชาก็ยังให้การยืนยันคำให้การเดิม แม้ตำรวจกองปราบจะนำข้อพิรุธต่างๆ ของพยานในคดีมาให้ดู พร้อมทั้งเสนอว่าหากยอมรับผิดจะได้กันเป็นพยานให้ แต่เจ๊บ้าบิ่นก็ให้การยืนยันคำเดิม
ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เป็นเทปสนทนาระหว่างครูปรัชากับเจ๊บ้าบิ่น ถือว่าเป็นหลักฐานที่จะน็อคแก๊งนี้ ได้มาจากคลิปเสียงที่ครูปรีชาอัดไว้ โดยคลิปดังกล่าว ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. กู้มาจากเครื่องโทรศัพท์ของทั้ง ร.ต.ท.จรูญ และครูปรีชา ตอนที่มอบให้ตำรวจตรวจสอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
โดยมีคลิปมากมายเกือบ 4 พันคลิป แต่ที่เป็นหลักฐานเด็ดมีเพียงสองคลิป คือ คลิปที่ครูปรีชาสนทนากับ เจ๊บ้าบิ่น ว่าตัวเองไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งคลิปทั้งหมดครูปรีชาได้ลบทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานไปแล้วหลังเกิดเรื่อง แต่ไม่คาดคิดว่าตำรวจ ปอท.จะสามารถกู้คืนกลับมาได้
สำหรับเครื่องมือทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่ใช้กู้ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ในวงการตำรวจเรียกเครื่องว่า “ด็อง” มีมูลค่าเครื่องละ 50 ล้านบาท เน้นใช้งานด้านสืบสวนในคดีเกี่ยวกับความมั่นคง คดีก่อการร้าย และคดียาเสพติด
แก๊งโกงหวยอาจจะเขียนบทได้สมจริง และตัวละครแต่ละคนก็ตีบทแตก เล่นไปตามบทบาทได้อย่างแนบเนียน รวมถึงหลักฐานก็ไม่ลืมลบทิ้งเพื่อขจัดร่องรอยไม่ให้เหลือ แต่ในที่สุดก็มิอาจจะปกปิดความจริงได้ เพราะสมัยนี้ร่องรอยอาชญากรรมแม้จะลบทำลายแล้ว มันกู้กลับมาได้