MGR Online - รอง ผบช.ก.เผยคดีหวย 30 ล้าน คืบหน้า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ขอเวลาอีก 2 วันก่อนเสนอหมายจับ ไม่ตัดประเด็น 4 ตำรวจภาค 7 มีเอี่ยว ยังอยู่ระหว่างสอบสวน ด้าน “ครูปรีชา” วิดีโอคอลจากเมืองกาญจน์หาสื่อ โต้คลิปสนทนากับแม่ค้าที่ตำรวจเอามาเป็นหลักฐานถูกตัดต่อ
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. ได้ร่วมประชุมหารือในคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังสี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ที่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว
พล.ต.ต.ชาญกล่าวก่อนเข้าประชุมว่า วันนี้เป็นการติดตามคดีในครั้งแรกหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.รับสำนวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบ ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะทำการออกหมายจับใครได้ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว เพราะจะต้องมีการประชุมหารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแต่ละชุดทำงานได้พยานหรือหลักฐานอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างหลังจากได้ลงพื้นที่
พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า คาดว่าคดีจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยขณะนี้ได้มีการคัดพยานออกว่าพยานใดไม่เกี่ยวข้องก็ต้องทำการคัดออกโดยตอนนี้มีพยานทั้งหมด 10 ปาก และขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการให้เจ้าหน้าที่ตามประกบพยานฝ่ายครูปรีชาแต่อย่างใด และในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ที่ทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ จะต้องเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีนั้น ไม่จำเป็นแล้ว เนื่องจากว่าได้มีการตั้งคณะทำงานชุดใหม่ของ บช.ก. ดังนั้นหมายเรียกดังกล่าวก็ต้องยกเลิกไป
“คดีมีความคืบหน้า 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็ยังต้องตรวจสอบหลักฐานและพยานอีกจำนวนมาก โดยหลังประชุมครั้งนี้ อีก 2 วันก็น่าจะออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้” พล.ต.ต.ชาญกล่าว
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนายแผน และนางกุ้ง พยานที่อ้างว่าเห็นคนลักษณะคล้าย ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บลอตเตอรี่นั้นก็ต้องเรียกมาสอบเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นพบว่าไม่ใช่กลุ่มเดียวกับครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น นอกจากนี้ ทางครูปรีชาได้รับสารภาพระบุลงในสำนวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 แล้วว่าเสียงที่ปรากฏในคลิปที่สนทนาที่หลุดออกมานั้นเป็นเสียงของครูปรีชาจริง และครูปรีชาเองก็เป็นคนที่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์เอง
พล.ต.ต.ชาญกล่าวด้วยว่า สำหรับการสอบปากคำพนักงานสอบสวนของ สภ.กาญจนบุรี ทั้ง 4 นายนั้น ขณะนี้ก็ยังสอบอยู่ เพราะขาดอีกหลายประเด็น แต่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไม่มีอาการเครียด ทั้งนี้ตนไม่สามารถฟันธงได้ว่าคดีดังกล่าวจะมีแนวโน้มผลสรุปทางคดีต่างไปจากผลของตำรวจภูธรภาค 7 หรือไม่ ขอให้พิสูจน์กันที่พยานหลักฐาน ส่วนการพิจารณาสอบปากคำหรือต้องสั่งย้าย พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 หรือไม่นั้น ขอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา ส่วนจะมีการเชิญ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี มาสอบหรือไม่นั้นก็ต้องอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเอง ถ้ามีการเกี่ยวพันไปถึงก็ต้องเรียกมาสอบ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประชุมหารือนั้น ครูปรีชาได้วิดีโอคอลมาหาผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าคลิปเสียงที่หลุดออกไปนั้นตนยอมรับกับตำรวจเป็นเสียงของตัวเองแค่บางส่วน บางส่วนน่าจะมีการตัดต่อ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ไม่รู้สึกกังวลใจใดๆ ทั้งสิ้น หากผลคดีออกมาว่าตนเป็นคนผิดและไม่คิดจะหลบหนีอย่างแน่นอน
พล.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.กล่าวภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวนนานกว่า 4ชั่วโมงว่า ในวันพรุ่งนี้ทางชุดสืบสวน กองกำการ 5 กองปราบปราม จะลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบปากคำพยานเดิมฝั่งครูปรีชา จำนวน 7คน อีกครั้ง เพื่อประกอบสำนวนคดีคลายความสงสัยหาความเชื่อมโยงของคดีที่เกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วงระหว่างวันที่ 30 ต.ค. -1 พ.ย.2560
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่จะนำไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลหรือไม่นั้น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสามารถตรวจสอบได้ว่าคลิปเสียงมีการตัดต่อหรือไม่ และเป็นเสียงของครูปรีชา และบุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงหรือไม่ แต่ย้ำว่าก่อนหน้านี้ ครูปรีชา มีการเซ็นลายมือชื่อรับรองว่าคลิปเสียงบางส่วนเป็นเสียงของตนเองจริง แต่ทั้งนี้ หลักฐานในคดีทั้งคลิปเสียงที่ ร.ต.ท.จรูญ ใช้เป็นหลักฐาน และเสียงบันทึกคำให้การของพยาน มีมากกว่า 4,000 คลิป จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใด แต่ยืนยันการสอบสวนคดี และออกหมมยจับผู้กระทำผิดแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 21ก.พ.นี้จะมีการเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง