MGR Online - ผบช.ก.เผย “เจ๊บ้าบิ่น” ยังไม่กลับคำให้การ ทั้งที่แสดงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ดู ยันให้โอกาสแล้ว สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับสภาพ ส่วนผลสอบ ผบก.จ.กาญจนบุรี ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด
วันนี้ (15 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ที่ถูกเชิญมาให้ปากคำในคดีหวยอลเวง 30 ล้าน ล่าสุดพบว่ามีด้วยกันทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย ได้แก่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี จำนวน 4 นาย เป็น ยศ พ.ต.ท.1 นาย, พ.ต.ต.1 นาย, ร.ต.อ.1 นาย และ ด.ต.1 นาย ขณะที่อีก 1 นาย คือ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นอกจากนี้มีพลเรือนอีก 3 คน ประกอบด้วย นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ “เจ๊บ้าบิ่น”, นางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนายแผน ไม่ทราบชื่อนามสกุล
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการสอบปากคำดังกล่าวกินเวลาล่วงเลยมานานกว่า 7 ชั่วโมง ก็ยังไม่แล้วเสร็จ จากการสอบสวนเบื้องต้นนั้นพบว่า เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ยังคงยืนยันให้การตามเดิม ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี อีก 4 นาย ให้การถึงกรณีที่เชื่อว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของครูปรีชาว่าเป็นเพราะการเข้าให้ปากคำในครั้งแรกของ ร.ต.ท.จรูญนั้นไม่สามารถระบุข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับที่มาของลอตเตอรี่ดังกล่าวได้เลย เป็นเหตุให้มีมูลเชื่อได้ว่าเจ้าของที่แท้จริงน่าจะเป็นของครูปรีชา
ขณะที่คำให้การของ พล.ต.ต.สุทธินั้นได้ให้ข้อมูลในลักษณะว่าตนไม่ทราบรายละเอียดเบื้องลึกของคดีดังกล่าวมากนัก เนื่องจากมอบหมายให้พนักงานสอบสวนของท้องที่เป็นผู้ดำเนินการในตอนแรก
ขณะเดียวกัน นายแผนเป็นคนเดียวที่ให้ปากคำแตกต่างไปจากเดิม จากคราวแรกที่ระบุว่าเป็นผู้เห็นร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่ขึ้นมาจากพื้น แต่การสอบปากคำครั้งนี้นายแผนกลับคำให้การว่าตนได้ยินเสียงแว่วว่ามีคนทำลอตเตอรี่ตกหล่นจึงหันไปดูก็พบว่าเป็นชายมีลักษณะคล้ายกับ ร.ต.ท.จรูญ กำลังก้มลงเก็บลอตเตอรี่แล้ว แต่ไม่แน่ชัดว่าใช่ ร.ต.ท.จรูญ หรือไม่
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำการสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่าเจ๊พัชได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำหลายครั้ง โดยมีตำรวจหญิงเดินตามประกบอยู่ตลอดเวลา
ต่อมาเวลา 20.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวภายหลังสอบสวนพยานฝ่ายครูปรีชาว่า เพิ่งได้รับสำนวนคดีมาไม่นาน ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานและฐานและตรวจสอบสำนวนพยานหลักฐานเดิมที่ได้มา ส่วนการสอบปากคำพยานทั้งหมดในวันนี้พบว่าค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อคดีมาก ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี กรณีที่ต้องมีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มาสอบปากคำด้วยนั้นเพราะต้องการทราบที่มาที่ไปและขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับคดีตั้งแต่มีการเริ่มแจ้งความจนไปถึงขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และดูว่าขั้นตอนใดมีการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่บ้าง และหากพบว่าผิดพลาดจริงก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีการปกป้อง แม้จะเป็นตำรวจด้วยกันเอง “ตำรวจไม่ดี ก็ไม่เลี้ยงไว้”
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า ขณะที่การสอบปากคำผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีนั้นตนขอไม่เปิดเผยว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่การสอบปากคำเจ๊บ้าบิ่น พยานบุคคลทางฝั่งครูปรีชาในวันนี้ เบื้องต้นยังคงให้การเหมือนเดิม ทั้งที่ตนก็ได้แสดงข้อมูลที่ขัดแย้งเกี่ยวกับคำให้การกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ดูแล้ว แต่ทางเจ๊บ้าบิ่นก็ยังยืน นั่นก็เป็นสิทธิของเขา ตนถือว่าให้โอกาสแล้ว และให้ความยุติธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย หากผลสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับสภาพจากการกระทำ แต่ดูแล้วเขาคงลำบากใจในหลายๆ เรื่อง เพราะเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากความเชื่อ เชื่อในที่นี้หมายถึงเชื่อว่าคนของฝั่งตนเองพูดความจริง เหมือนญาติพี่น้องพูดอะไรก็ต้องเชื่อ
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวด้วยว่า การทำงานต้องใช้เวลา รอบคอบ เพราะคนติดคุกง่าย แต่เอาออกจากคุกยาก การสอบสวนในวันนี้จึงต้องใช้เวลานานพอสมควร และยังดำเนินการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ส่วนการออกหมายจับยังไม่ขอเปิดเผย เป็นขั้นตอนหลังจากนี้ แต่ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ทุกอย่างน่าจะจบ ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดเผยว่า เจ๊บ้าบิ่นรับสารภาพแล้วว่าไม่ได้ขายลอตเตอรี่ให้ครูปรีชา ในส่วนนี้ตนยังไม่ทราบเรื่อง