xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ก.เผย “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” และพวกโดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบอีกคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - บช.ก. เตรียมเรียก “ฐนุกร” หรือ แผน ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้เห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ก้มเก็บลอตเตอรี รับทราบข้อหาฐานร่วมกันการกระทำผิด “ครูปรีชา - เจ๊บ้าบิ่น” โดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบอีกคดี

วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ กองบัญชาการสอบสวนกลาง เมื่อเวลา 15.20 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ว่า พรุ่งนี้ทางคณะทำงานของ บช.ก. จะประชุมเพื่อสรุปการออกหมายเรียก นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้เห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ก้มเก็บลอตเตอรี เพื่อมารับทราบข้อหาฐานร่วมกันการกระทำผิดกับ นายปรีชา ใคร่ครวญ และ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น เเม่ค้าลอตเตอรี จากการกระทำดังกล่าวที่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยแม้นายฐนุกรจะมีกลับคำให้การภายหลัง แต่ก็เป็นเรื่องที่จำนนต่อหลักฐาน ซึ่งเราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียก นายปรีชา, นางรัตนาพร และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช เเม่ค้าขายลอตเตอรีมา เพื่อเเจ้งข้อหาฐานให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับ พล.ต.ต.สุทธิ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลที่มีหมายเรียกดังกล่าว ทางคณะทำงานจะพิจารณาอีกทีว่าจะเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุน โดยภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ผบช.ก. กล่าวต่อว่า คดีดังกล่าวจะมีการแยกทำเป็นอีกสำนวนจากคดีหลัก ซึ่งการพิจารณามาตรา 157 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะพิจารณาสำนวนให้ครบถ้วนที่สุด ก่อนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. พิจารณาทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตต่อไป

ส่วนกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกัน เพื่อไม่ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ นั้น
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อใจ เราจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ทุกอย่างดำเนินการตามพยานหลักฐาน ตำรวจเป็นเพียงกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการส่งฟ้อง และ ศาลเท่านั้น ที่มีอำนาจตัดสินความผิด คนทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิดไม่มีการละเว้น

“เรื่องนี้แม้เริ่มต้นเกิดจากความเชื่อ แต่ภายหลัง พล.ต.ต.สุทธิ มีการแก้ไขคำให้การ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ถือเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ และ ส่อไปในทางทุจริต ตรงนี้ผมพูดชัดเจน ประชาชนไม่ต้องกังวล ผมจะดูเองทุกเรื่อง” ผบช.ก. กล่าว

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวด้วยว่า ส่วน พล.ต.ต.สุทธิ จะปฏิเสธหรือรับสารภาพ ตำรวจไม่ได้มีความกังวล ใครจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่เราก็รวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนให้มากที่สุด ยิ่งปฏิเสธยิ่งดี ผลการกระทำจะบอกเองว่าใครทำผิด

อย่างไรก็ตาม การส่งหมายเรียกผู้สนับสนุนในความผิดมาตรา 157 เจ้าหน้าที่ได้ส่งหมายเรียกทางไปรษณีย์ด่วนให้กับผู้ต้องหา โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 16 มีนาคมนี้ ส่วนจะให้ พล.ต.ต.สุทธิ ออกจากราชการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ หน่วยงานต้นสังกัด รวมถึงหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องวินัยเป็นผู้พิจารณา

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ส่วนตำรวจ 2 นาย ที่ถูกกันไว้เป็นพยานจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า เราจะบริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการต่อสู้คดี จึงต้องดูว่ามีพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วยหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะต้องหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียบ เบื้องต้นบุคคลที่สอบปากคำไปนั้นต้องการทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการ และ สั่งผ่านใครมา เพื่อให้ขยายผลไปถึงระดับผู้สั่งการในการกระทำความผิด


กำลังโหลดความคิดเห็น