xs
xsm
sm
md
lg

“ผอ.กาญจนา” รับแล้ว “นพดล” อดีตบิ๊กกรมอุทยานฯ ประสานปล่อย “เปรมชัย” เข้าทุ่งใหญ่ ท้อถูกด่าเล็งลาออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Onlone - ผอ.กาญจนา - หัวหน้าวิเชียร เข้าให้ปากคำตำรวจ ปทส. เพิ่มเติม คดีบิ๊กอิตาเลียนไทย ล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ รับ “นพดล พฤกษะวรรณ” อดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ โทร.มาขอจริง รับเป็นคนประสานให้เข้า ยันไม่รู้จักเปรมชัยเป็นการส่วนตัว พ้อไม่คิดว่าจะไปยิงสัตว์ป่า ท้อสังคมกดดันเล็งจะลาออกจากราชการ

วันนี้ (9 ก.พ.) น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเป็นผู้อนุญาตให้ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี โดยปล่อยให้ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกอีก 3 คน เข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียม ว่า

ตนเองได้รับการประสาน จาก นายนพดล พฤกษะวรรณ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการในกรมอุทยานฯ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า มีคนรู้จักจะขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ ซึ่งตนเองก็ได้อธิบายไปว่า อำนาจหน้าที่ไม่ได้อยู่ในส่วนที่รับผิดชอบแล้ว ต้องเป็นของพื้นที่บ้านโป่งเป็นผู้อนุญาต จึงได้ให้ข้อแนะนำเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และได้โทรศัพท์ไปบอกกับเจ้าหน้าที่บ้านโป่ง ว่า จะมีคนติดต่อเข้าไปขออนุญาต หลังจากนั้น ก็ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับ นายนพดล อีก 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งคือ ตอนที่ไม่สามารถติดต่อนายนพดล ได้ และครั้งสุดท้ายคือ หลังจากที่ติดต่อกับนายนพดล

ทั้งนี้ น.ส.กาญจนา พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้จักกับ นายนพดล หรือ นายเปรมชัย เป็นการส่วนตัว รวมถึงนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ที่เป็นหัวหน้าชุดจับกุม ก็รู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น อีกทั้งยังไม่เคยเห็นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ และการออกหนังสืออนุญาต ก็ต้องยื่นกับพื้นที่บ้านโป่ง ไม่ได้ส่งมาให้เซ็นอนุมัติแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า รู้สึกท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าการที่เป็นคนแนะนำเรื่องการประสานงาน จนนำไปสู่การลักลอบล่าสัตว์ป่า จะทำให้เกิดเหตุสลดใจขึ้น โดยไม่คิดว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ในสังคม และยังถูกสังคมมองว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุน และหากสุดท้ายไม่มีที่ยืนในสังคมก็อาจพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง ก่อนเกษียณอายุราชการที่เหลืออีกเพียง 1 ปีเท่านั้น

ต่อมาเวลาเมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.กาญจนา พร้อมด้วย นายวิเชียร และเจ้าหน้าที่อีก 3 คน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดย น.ส กาญจนา จะมาให้ข้อมูลในเรื่องการขออนุญาตอำนวยความสะดวกให้ นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก เข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ส่วนนายวิเชียร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาจะมาให้การเพิ่มเติม ในประเด็นเริ่มตั้งแต่นายเปรมชัยกับพวกพวก เข้ามาในพื้นทุ่งใหญ่นเรศวร โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกห้องกันเพื่อดำเนินการสอบสวน

โดยหลังใช้เวลาสอบปากประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง น.ส.กาญจนา ออกมาเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มาให้ปากคำเพิ่มเติมและนำส่งเอกสารบางส่วนให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้อนุญาตให้นายเปรมชัย กับพวก เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก โดยหลังจากที่นายนพดล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย โทรมาขออนุญาต แต่ตนเองแค่แนะนำขั้นตอนการขอเข้าพื้นที่เท่านั้น

ส่วนการที่นายนพดล โทรมาขออนุญาตนั้น จะมีเจตนาแอบแฝงในการเข้าไปล่าสัตว์หรือไม่นั้น ไม่สามารถสรุปได้ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันนี้จึงมีการเรียกหลายฝ่ายเข้ามาสอบปากคำ

ขณะที่การเข้าป่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกหรือไม่ จากข้อมูลที่ปรากฎในกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธ์พืช ไม่พบชื่อนายเปรมชัยเข้าป่า ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมานายเปรมชัยอาจจะใช้วิธีการโทรศัพท์เพื่อให้อำนวยความสะดวก ไม่ปรากฎหลักฐานนั้น น.ส.กาญจนา ระบุย้ำว่า แม้จะมีการโทรศัพท์เข้ามา ต้องมีหนังสือคำสั่งจากกรมอุทยาน ประกอบด้วยเช่นกัน

ส่วนหลังจากเกิดเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงในลักษณะต่อรองระหว่างเจ้าหน้าที่กับคณะของนายเปรมชัย ตนเองไม่ได้รับรายงาน ซึ่งปกติเรื่องใหญ่แบบนี้จะต้องมีรายงานถึงผู้บริหารระดับสูง

ส่วนการนำกรณีการขอเข้าพื้นที่ป่าของนายเจษฎาภรณ์ ผลดี และนายเปรมชัย มาเปรียบเทียบกัน โดยระบุว่า เป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกัน ซึ่งในกรณีนายเจษฎาภรณ์ เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้าไปในพื้นที่ป่าที่ห้ามเข้า ส่วนนายเปรมชัย เป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดเพิ่มเติมคือล่าสัตว์ป่า ทำให้ต้องถูกดำเนินคดี

หลังใช้เวลาสอบปากประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง น.ส.กาญจนา ออกมาเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มาให้ปากคำเพิ่มเติมและนำส่งเอกสารบางส่วนให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้อนุญาตให้นายเปรมชัย กับพวก เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก โดยหลังจากที่นายนพดล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย โทรมาขออนุญาต แต่ตนเองแค่แนะนำขั้นตอนการขอเข้าพื้นที่เท่านั้น

ส่วนการที่นายนพดล โทรมาขออนุญาตนั้น จะมีเจตนาแอบแฝงในการเข้าไปล่าสัตว์หรือไม่นั้น ไม่สามารถสรุปได้ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันนี้จึงมีการเรียกหลายฝ่ายเข้ามาสอบปากคำ

ขณะที่การเข้าป่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกหรือไม่ จากข้อมูลที่ปรากฎในกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธ์พืช ไม่พบชื่อนายเปรมชัยเข้าป่า ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมานายเปรมชัยอาจจะใช้วิธีการโทรศัพท์เพื่อให้อำนวยความสะดวก ไม่ปรากฎหลักฐานนั้น น.ส.กาญจนา ระบุย้ำว่า แม้จะมีการโทรศัพท์เข้ามา ต้องมีหนังสือคำสั่งจากกรมอุทยาน ประกอบด้วยเช่นกัน

ส่วนหลังจากเกิดเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงในลักษณะต่อรองระหว่างเจ้าหน้าที่กับคณะของนายเปรมชัย ตนเองไม่ได้รับรายงาน ซึ่งปกติเรื่องใหญ่แบบนี้จะต้องมีรายงานถึงผู้บริหารระดับสูง

ส่วนการนำกรณีการขอเข้าพื้นที่ป่าของนายเจษฎาภรณ์ ผลดี และนายเปรมชัย มาเปรียบเทียบกัน โดยระบุว่า เป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกัน ซึ่งในกรณีนายเจษฎาภรณ์ เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้าไปในพื้นที่ป่าที่ห้ามเข้า ส่วนนายเปรมชัย เป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดเพิ่มเติมคือล่าสัตว์ป่า ทำให้ต้องถูกดำเนินคดี




กำลังโหลดความคิดเห็น