MGR Online - มอบเงินคืนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ 11 รายสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 275 หมาย จับได้แล้ว 162 ราย อยู่ระหว่างสืบสวนติดตาม 113 ราย กสทช.บล็อก 50 หมายเลขเป้าหมาย ปิดช่องสื่อสารคนร้าย
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 เป็นผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย ร่วมกันคืนเงินจากการถูกหลอกลวงของแก๊ง Call Center คืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 11 ราย รวมเป็นเงินจำนวน 1,641,265.47 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า คนร้ายใช้วิธีการหลอกลวงในรูปแบบใหม่ซึ่งล่าสุดพบว่ามีการปลอมหมายจับส่งไปให้เหยื่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อ เป็นความพยายามของคนร้ายที่หาวิธีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ หลังจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการเข้มข้นในการป้องกันปราบปรามทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบบัญชีธนาคาร การตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ จากการดำเนินงานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 275 หมาย จับได้แล้ว 162 ราย อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจำนวน 113 ราย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาพบว่า มีการใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายนั้น ด้วยการโทรศัพท์ผ่านระบบการสื่อสาร VOIP และมีการแปลงเลขหมายที่ปรากฏยังประชาชนผู้รับสายให้เป็นหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานของรัฐเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นเงินจำนวนมาก และจากการวิเคราะห์พบว่าหมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานของรัฐที่มีการนำไปใช้อ้างอิงนั้นเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีตำรวจ ที่ทำการไปรษณีย์ ศาล และหมายเลขอื่น ที่มีหมายเลขซ้ำกัน ทาง กสทช.จึงร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ในประเทศบล็อกหมายเลขจำนวน 50 หมายเลข พร้อมทั้งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ในประเทศ กำหนดแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อลดความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยจะทำการปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์จากหมายเลขที่คนร้ายใช้โทร.จากต่างประเทศมาหลอกลวงผู้เสียหายในทันที