xs
xsm
sm
md
lg

ยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คืนเหยื่อแล้ว 120 ล.จับกุมผู้ต้องหาได้ 98 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตร.- ปปง. แถลงยึดคืนเงินผู้เสียหายเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 ราย เผยยึดทรัพย์แล้ว 120 ล. จากปฏิบัติการ 5 ครั้ง ได้ดำเนินการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 146 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 98 ราย วอนแจ้งผ่านสายด่วน 1171 สามารถอายัดเงินได้ทันท่วงที

วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ท.สาคร ทองมุนี ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมชุดสืบสวน และ นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผอ.กองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ข้ามชาติ ครั้งที่ 6 ‘มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน’ โดยสามารถติดตามเฝ้าระวังบัญชีต้องสงสัย จนสามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง และโอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้ว ระงับไม่ให้สามารถทำการถอนเงินออกไป ซึ่งอายัดและนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายจำนวน 4 ราย รวมเป็นเงิน 1,708,000 บาท

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายลงไปช่วยเหลือและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการที่จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งให้กวาดล้างกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยและชาวต่างชาติ จากการปฏิบัติการ 5 ครั้ง ได้ดำเนินการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 146 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 98 ราย อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุม 48 ราย ยึดและอายัดทรัพย์สิน 120 ล้านบาท โดยทาง ตร. ได้ร่วมกับทางสมาคมธนาคาร และชมรมธุรกิจบริการเอทีเอ็ม ที่คอยช่วยเหลือตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้าย มีกาคเฝ้าติดตามและยึดอายัดทรัพย์สิน

สำหรับกรณีแรกพื้นที่ สน.ทองหล่อ เป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายจำนวน 5,700,000 บาท ในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้จำนวน 990,000 บาท ส่วนรายที่สองพื้นที่ สน.โชคชัย ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายจำนวน 1,185,000 บาท ในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายและสามารถยึดเงินคืนจากคนร้ายที่เบิกเงินจากบัญชีในทันที จำนวน 195,000 บาท ส่วนอีกรายอยู่ในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายจำนวน 104,000 บาท ในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้จำนวน 64,000 บาท ส่วนเคสสุดท้ายพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายจำนวน 459,000 บาท ในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือโดยอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้ทั้งหมด จำนวน 459,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่เราตั้งศูนย์ฯ จากสถิติของศูนย์คอลเซ็นเตอร์ จะเห็นได้ว่าการหลงเชื่อ หรือตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลง จากการปราบปรามกวดขันอย่างจริงจัง ขณะนี้ประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นการแจ้งเบาะแส ถือว่าสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้น
“อยากฝากเตือนประชาชนว่าเมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อให้รีบติดต่อมาที่ศูนย์ฯ สายด่วน ตร. 1155 และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้อย่างเร็วที่สุด” รอง ผบช.ทท. กล่าว

ด้าน นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก แต่ขบวนการหลอกลวงเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขณะนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้น เหยื่อที่ถูกหลอกและแจ้งมายัง ปปง. ผ่านสายด่วน 1171 มีจำนวนลดลง ส่วนการคืนเงินให้กับผู้เสียหายที่แจ้งมายัง ปปง. อย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุ 10 - 15 นาที ทำให้สามารถอายัดเงินได้บางส่วน หรือ ทั้งหมดก่อนที่คนร้ายจะถอนออกไป จนนำไปสู่การนำเงินส่วนนี้คืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งกระบวนการคืนเงินก็มีการสอบสวนจนแน่ชัด มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ธุรกรรมการเงิน ปปง. ร่วมกับสถาบันการเงิน ทุกขั้นตอนต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส

ผอ.กองคดี 1 ปปง. กล่าวอีกว่า ล่าสุด มีการดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้ในส่วนของตำรวจ จำนวน 120 ล้านบาท ในจำนวนนี้บางส่วนมีการส่งมาให้ ปปง. คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึดทรัพย์แล้ว จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์เหล่านี้จะถูกนำเข้ามาสู่กระบวนการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามกฎหมาย ปปง. โดยจะถูกเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ฉะนั้น ประชาชนที่ได้รับความเสียหายมายื่นคำร้องต่อ ปปง. ภายใน 30 วัน หลังจากที่ ปปง. ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้นทาง ปปง. จะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเสนอศาลให้พิจารณาคืนเงินคุ้มครองสิทธิให้กับผู้เสียหายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมหญิงสูงอายุ 75 ปี ผู้เสียหายในพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทร.เข้ามาเบอร์ผู้เสียหาย แล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบยาเสพติดทางภาคเหนือ โดยมีพัสดุส่งมาที่ตนนานแล้ว จึงเปิดออกดู พบสมุดบัญชีผู้เสียหายอยู่เกรงว่าจะพัวพันขบวนการยาเสพติด ทั้งนี้ ชักจูงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจนผู้เสียหายโอนเงินออกไป พอผู้เสียหายรู้ตัวจึงรับเข้าแจ้งความ ก่อนติดตามอายัดเงินได้ทัน


กำลังโหลดความคิดเห็น