xs
xsm
sm
md
lg

ปปง.-ดีเอสไอ-สตช.เพิ่มประสิทธิภาพปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้ง ศปก.เร่งหาเงินคืนเหยื่อ เผยจับกุมแล้ว 90 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ปปง. บูรณาการ สตช.- ดีเอสไอ เพิ่มประสิทธิภาพป้องกัน - ปราบปรามกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมตั้ง ศปก.ปปง. เร่งหาเงินคืนเหยื่อที่ถูกหลอก เผย เฉพาะปีนี้เสียหายกว่า 60 ล้านบาท ออกหมายจับกว่า 107 ราย จบกุมแล้ว 90 ราย

วันนี้ (24 พ.ย.) เวลา 10.00 น. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการ ปปง. เป็นประธานการประชุม เรื่อง การบูรณาการปฏิบัติงานตามกฎหมายฟอกเงิน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ ประสานความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน รอง ผบช.ทท. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ปปง. ได้หารือร่วมกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการโทรศัพท์กำหนดแนวทางป้องกันความเสียหายทรัพย์สินจากกลุ่มมิจฉาชีพ โดยวันนี้ได้ประชุมกับ 2 หน่วยงาน ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ดีเอสไอ เพื่อเน้นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้จัดตั้ง ศปก.ปปง. ขึ้น พร้อมประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลเยียวยาประชาชนให้เงินที่ถูกหลอกโอนไปยังคนร้ายกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด

“สถาบันการเงินจะช่วยตรวจสอบและหยุดการถอน หรือเบิกเงินกรณีประชาชนถูกหลอกลวง ส่วนผู้ให้บริการโทรศัพท์ตรวจสอบการโทรของคนร้าย ว่า มาจากในประเทศ หรือต่างประเทศ และการโทร.เป็นลักษณะใด อีกทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ดีเอสไอ จะเก็บพยานหลักฐานเอาผิดเพื่อดำเนินการจับกุมคนร้ายต่อไป” พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าว

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตรวจสอบพบว่า มีความเสียหายจากคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปี 60 เบื้องต้นประมาณ 60 ล้านบาท และเตรียมขยายผลหาเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานมีผู้ประสานงานหลักและเดินหน้าทำงานพร้อมกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ด้าน พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ช่วยสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงขบวนการดังกล่าว และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วน ปปง. ติดตามยึดอายัดทรัพย์ตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากประชาชนเกิดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทร. มาหลอกลวงให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทั่วประเทศ อาทิ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือ กองบัญชาการตำรวจภูธร 1 - 9 (บช.ภ.1 - 9) พร้อมกำชับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้รีบรายงานกลับมายัง ปปง. หรือ ตร. ทันที

ส่วนทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานเน้นทั้งการป้องกันและปราบปราม โดยการป้องกันเพื่อต้องการนำเงินผู้เสียหายมาคืนโดยเร็ว ส่วนการปราบปรามเพื่อจับกุมคนร้ายมาลงโทษ ซึ่งทางตำรวจออกหมายจับ 107 หมาย จับกุมได้แล้วกว่า 90 ราย และขณะนี้ยังคงกวาดล้างติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด

กำลังโหลดความคิดเห็น