MGR Online - ตร.ท่องเที่ยว รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เกือบ 19 ราย รับคำสั่งจากอดีตนักโทษชาวไต้หวันที่ยังหลบหนีอยู่ ตุ๋นเงินอดีตผู้ช่วยพยาบาล รพ.ตร. วัย 71 ปี แจ้งข้อหาฉ้อโกง มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกระทำผิด
วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.15 น. ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รอง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.นริศ ปรารถนาพร รอง ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทท. บก.สปพ. กก.สส.บก.น.2 กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ จำนวน 19 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 9 คน และการจับกุมตัว นายนฤพล แช่มสูงเนิน อายุ 26 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืน จำนวน10 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และชิ้นส่วนอาวุธปืนบีบีกัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้หลอกผู้เสียหาย คือ พ.ต.ต.หญิง จินตนา สุภาพ อายุ 71 ปี อดีตผู้ช่วยพยาบาล รพ.ตร. ให้โอนเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท โดยกลุ่มดังกล่าวแบ่งการทำงานเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มที่สองเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ และกลุ่มสุดท้ายรับเปิดบัญชี โดยมี นายไพศาล หรือ อ๋อย อ่อนเอม อายุ 44 ปี เป็นหัวหน้าแก๊งคอยสั่งการ ซึ่งจากการสอบสวนนายไพศาล ทราบว่า ตนรู้จักกับ นายเฉิน หยวน ไข่ ชาวไต้หวัน ภายในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ได้ชวนกันก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีจำนวน 21 คน หลบหนีอยู่ต่างประเทศ จำนวน 5 คน ส่วนนายเฉินขณะนี้ทราบว่าหลบหนีอยู่ภายในประเทศและอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.ต.หญิง จินตนา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้ชายที่อ้างตนว่า เป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ อยู่ที่ จ.พิษณุโลก ว่า ตนได้ส่งของทางไปรษณีย์เป็นสมุดบัญชีกว่า 30 เล่ม โดยส่งให้คนชื่อ มาลี อินสุข ซึ่งทางปลายสายอ้างว่า สมุดบัญชีทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นสมุดบัญชีที่ใช้สำหรับฟอกเงิน จากนั้นได้ส่งโทร.ต่อให้อีกคนที่เป็นผู้หญิงซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปง. โดยทางปลายสายแจ้งว่าต้องส่งเงินภายในบัญชีที่ตนมีทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ตนหลงเชื่อจึงเดินทางไปโอนเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสะพานใหม่ จำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท จำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท จากนั้นประมาณ 30 นาที ได้มีคนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. อ้างว่า ตรวจสอบเงินเรียบร้อยแล้ว และจะโอนเงินทั้งหมดคืนให้ให้วันรุ่งขึ้น ตนจึงเดินทางกลับบ้าน ต่อมาเมื่อตนกลับถึงบ้าน มีเพื่อนบ้านมาทักว่าไปไหนมา ตนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อนบ้านจึงแนะนำว่า ตนถูกหลอก จึงเดินทางแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางเขน เพื่อเป็นหลักฐาน
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมตัว นายนฤพล พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวนหลายรายการ ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีอาชีพขายชิ้นส่วนอาวุธปืนบีบีกัน ทางอินเทอร์เน็ต ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้น ตนสั่งซื้อมาทางอินเทอร์เน็ตในราคา 5,000 - 12,000 บาท เช่นเดียวกัน และไม่เคยนำไปยิงที่ไหน เพียงแค่เป็นคนชอบสะสมปืนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายภายในประเทศ จำนวน 78 จุด โดยสามารถจับผู้ต้องหาได้ 30 ราย พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนและสิ่งเทียมอาวุธ จำนวน 92 รายการ เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,162 นัด ยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 200 เม็ด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” กับ นายไพศาล พร้อมพวกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายและแจ้งข้อหา “ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” แก่นายนฤพล และผู้ต้องหาอีก 30 ราย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป