xs
xsm
sm
md
lg

เซลส์แมนซิ่งเก๋งกลับบ้านหลับใน เสยท้ายรถคนงานบนทางด่วนพิเศษฉลองรัช ตาย 1 เจ็บ 13

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - หนุ่มเซลส์แมนซิ่งเก๋งกลับบ้านกลางดึก เกิดอาการวูบเสยท้ายรถส่งขนงานบนทางด่วนพิเศษฉลองรัชมุ่งหน้าจตุโชติ กม.22+900 ฝั่งขาออก เสียชีวิตคาที่ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. พ.ต.ท.พลัฏฐ์ ทับทิม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณบนทางด่วนพิเศษฉลองรัช แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทาง พิเศษฉลองรัช มูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน อยู่บริเวณทางขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าจตุโชติ กม.22+900 ฝั่งขาออก บริเวณเลนซ้ายสุดพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีแดง หมายเลขทะเบียน กฉ 988 ปทุมธานี สภาพรถหันหน้ากลับบริเวณหน้ารถพังยับเยิน ตรวจสอบภายในรถพบ นายวาที ช้างพลายเพชร อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก ห่างออกไป 100 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒข 8384 กรุงเทพมหานคร สภาพโดนชนท้ายรถด้านขวา ข้างตัวรถได้รับความเสียหายจากการกระแทกกับแท่งแบริเออร์ข้างทาง จากตรวจสอบภายในรถพบ นายนิมิตร ทะหมุน อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังมีคนงานเป็นชาย 1 คน นั่งอยู่ข้างคนขับหมดสติอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องนำร่างออกมาทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบมีผู้บาดเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลือเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบนำผู้บาดเจ็บเข้าข้างทาง เพื่อทำการปฐมพยาบาลก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.พญาไทนวมินทร์ 8 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน รพ.นพรัตน์ จำนวน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน และ รพ.สายไหม เป็นชาย 1 คน รวมมีผู้บาดเจ็บจำนวน 13 คน

จากการสอบถาม นายวาที กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นเซลส์แมนให้กับบริษัท บี แอนด์ เจ เอ็นเตอร์ไรส์ จำกัด ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินทางกลับที่พักย่านปทุมธานีหลังตนเพิ่งจะกลับจากการออกบูธแถวสีลม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนเกิดอาการวูบไปก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีรถของตนก็ชนท้ายกระบะเข้าอย่างแรงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

นายนิมิตร กล่าวว่า ตนเพิ่งรับคนงานจำนวน 10 กว่าคน มาจากย่านประตูน้ำ เพื่อเดินทางไปทำงานที่ย่านสายไหม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่ที่เลนซ้ายสุด จู่ๆ ก็มีรถยนต์พุ่งชนด้านท้ายรถอย่างแรง จนทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับข้างทาง

ด้าน พ.ต.ท.พลัฏฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด เพราะต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทาง รพ. ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 2 คัน รักษาตัวอยู่ตรวจเลือดเพื่อหาผลปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดว่ามีหรือไม่ และต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำมาสรุปสำนวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนชายที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เนื่องจากตามตัวไม่พบเอกสารระบุตัวตน ซึ่งจะต้องนำศพส่งนิติเวช รพ.ตร. เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตและพิสูจน์บุคคลจากลายนิ้วมือว่าผู้ตายเป็นใครก่อนจะทำการติดต่อญาติให้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น