MGR Online - ตำรวจภูธรภาค 6 ผสานกำลังตำรวจท่องเที่ยว บุก 2 สาวชาวจีน สวมบัตรประชาชน-ทะเบียนบ้าน เป็นสาวอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ตั้งบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญนานกว่า 28 ปี อ้างไม่รู้จักกัน ด้าน “พล.ต.ต.สถรเชษฐ์” จ่อขยายผลขบวนการอีก 5 หมื่นคน รวมทั้งเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือ ลั่นเดินหน้ากวาดล้างจนหมดประเทศไทย
วันนี้ (23 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ สน.ดุสิต พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท. และ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ 191 แถลงผลการจับกุม นางกานดา เฉิน อายุ 44 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลทราบว่าข้องกับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวในลักษณะทัวร์ต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ และมีการสวมบัตรประชาชนไทยมากว่า 28 ปี โดยใช้ชื่อ น.ส.กานดา พยัพเดช บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 ตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ตั้งแต่ปี 2532 ซึ่งเป็นบ้านที่ได้รื้อถอนและจำหน่ายออกจากระบบไปแล้ว และมีการแจ้งเปลี่ยนชื่อสกุลจากพยัพเดช เป็นเฉิน ในปี 2542 ทั้งยังมีการแจ้งบัตรประชาชนหายและขอทำใหม่หลายครั้งในหลายพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถามกับนายสมใจ พยัพเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ในขณะนั้น (ปี 2519-2538) ยืนยันว่าไม่มีบ้านเลขที่ 92 อยู่ในหมู่บ้านและไม่รู้จักบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าว สอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ว่านายสมใจไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ
ขณะเดียวกัน ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุม น.ส.สุณี พยัพเดช อายุ 40 ปี บุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกับ น.ส.กานดา มีพฤติกรรมการขอทำบัตรประชาชนใหม่ในหลายพื้นที่ และมีความเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและไม่เคยเห็นหน้ากัน ขัดแย้งกับความสัมพันธ์ทางทะเบียนราษฎรที่ระบุว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหายื่นคำขอมีบัตรสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต่อผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมนำดีเอ็นเอตรวจสอบพิสูจน์สัญชาติตามขั้นตอน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมต่างด้าวที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนไทยแล้ว 40 คน ส่วนใหญ่พบว่าสวมบัตรประชาชนเพื่อนำมาขออนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือกระทำสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้เร่งขยายผลจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะสวมบัตรประชาชนไทยตามเบาะแสอีกกว่า 5 หมื่นคน รวมทั้งเตรียมเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การช่วยเหลือการทำบัตรประชาชนปลอมด้วย พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีทัวร์ศูนย์เหรียญในประเทศไทยอย่างแน่นอน