xs
xsm
sm
md
lg

สุดแสบแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเลเซีย อ้างเป็น “พล.ต.ท.รณศิลป์” หลอกเหยื่อโอนเงินสูญ 2.7 ล้าน (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - รวบ 2 หนุ่มมาเลเซีย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็น พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการ ผบช.ภ.9 โทร.หาเหยื่อ อ้างว่า บัญชีธนาคารพัวพันยาเสพติด ให้โอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้เพื่อตรวจสอบ มีคนหลงเชื่อ สูญเงินเกือบ 2.7 ล้านบาท



วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายซอ จุ่ย ฮอก อายุ 41 ปี นายเซียว เหว่ย แจ๊ค อายุ 35 ปี ชาวมาเลเซีย พร้อมของกลาง บัตรเอทีเอ็มจำนวน 7 ใบ และเงินสดจำนวน 61,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และสลิปกดเงิน 4 ใบ ได้ที่ บริเวณหน้าร้าน Bam ‘s Coffee รามคำแหง 2 ซอย 11 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมกับพวกกว่า 10 คน ซึ่งมีทั้งชาวไทย ชาวมาเลเซีย และชาวไต้หวัน รวมตัวกันตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อเหตุโทรศัพท์ไปหลอกเอาเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป โดยมีฐานที่ทำการอยู่ในประเทศไต้หวัน กระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้โทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้เสียหายรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ระยอง โดยอ้างตัวว่าเป็น พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการผบช.ภ.9 แล้วขอทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ด้วยการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามายังบัญชีธนาคารที่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้เตรียมไว้ โดยอ้างว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายเข้าไปมีส่วนพัวพันกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด

ต่อมา ผู้เสียหายหลงเชื่อยอมโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีทั้งหมดจำนวน 2.7 ล้านบาท ให้กับกลุ่มคนร้าย กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส พร้อมกับตรวจสอบเส้นทางการเงินจากบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้าย กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ซึ่งอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวกำลังตระเวนกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็มตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าได้อยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวจริง แต่ทำหน้าที่เป็นเพียงคนคอยตระเวนกดเงินตามคำสั่งของหัวหน้าขบวนการ ซึ่งจะติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น โดยไม่เคยพบเห็นหรือเจอตัวกันมาก่อน โดยจะได้รับเงินค่าจ้างในการทำหน้าที่ดังกล่าวเดือนละ 3 หมื่นบาทเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น