MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวโชว์ผลงานตรวจค้นเป้าหมายอาชญากรรมต่างชาติทั่วประเทศรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาเฟีย จีน - ไต้หวัน แสบอ้างตัวเป็น รรท.ผบช.ทท. หลอกเหยื่อโอนเงิน ออกหมายจับ 89 ราย สั่งตามล่า 2 บอสใหญ่คนสั่งการเครือข่าย ปปง. อายัดเงินในบัญชีไปแล้ว 189 ล้านบาท
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.40 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ191 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศ จำนวน 43 เป้าหมาย สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 50 ราย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ จีน ไต้หวัน ซึ่งมีพฤติการณ์อ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อโอนเงินให้ ประชาชนตกเป็นเหยื่อและหลงเชื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลักร้อยล้านบาท
พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยว บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ 191 และตำรวจภูธรภาคต่างๆ ปราบปรามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อ้างเป็นตำรวจ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ฯลฯ บางเคสผู้ต้องหาโทร.ไปหาเหยื่อ แล้วอ้างว่าเหยื่อทำผิดกฎหมายต่างๆ ทั้งเรื่องยาเสพติด ทัวร์เถื่อน
ไกด์เถื่อน พูดหวานล้อมต่างๆ นานา เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีความผิด หลังจากนั้น ยื่นข้อเสนอจะช่วยเหลือเหยื่อให้เหยื่อโอนเงินให้ อ้างว่า จะช่วยเหลือบ้าง ข่มขู่บ้าง อ้างว่า ธนาคารจะอายัดเงินในบัญชีบ้าง แล้วแต่เคสจะไม่เหมือนกัน ทำเป็นขบวนการ ซึ่งตนยังเคยถูกผู้ต้องหาเอาชื่อ ตำแหน่ง ผบช.ทท. ไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงเหยื่อด้วย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า กลุ่มขบวนการหลอกลวงดังกล่าว มีการออกหมายจับไปทั้งสิ้น จำนวน 89 หมาย อาทิ มีทั้งคนไทย 18 คน ชาวจีน 9 คน ชาวไต้หวันจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนได้สั่งการให้สืบสวนกับกุมส่วนที่เหลือให้ได้ทั้งหมด ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว ที่ผ่านมา จับได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม โดยเฉพาะบอสใหญ่ 2 ราย ที่เป็นตัวการในเครือข่ายนี้ตำรวจติดตามเบาะแสกลุ่มเหล่านี้มาโดยตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคง ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการประสาน ปปง. บังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน ตรวจสอบเส้นทางการเงินและมีการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 189 ล้านบาท