MGR Online – “พล.ต.อ.วิระชัย” ลุยเกาะหลีเป๊ะ ขอคืนพื้นที่อุทยาน แฉถูกนายทุนยึดครองสร้างโรงแรม เหลือสร้างอาคารโรงพักแค่ครึ่งไร่จากร่วม 10 ไร่ ซ้ำฟ้องขับไล่ตำรวจอีก เผย สู้ 3 ศาล สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาสิ้นสุดแล้ว
วันนี้ (12 พ.ย.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ เกาะหลีเป๊ะ เพื่อดำเนินการขอคืนพื้นที่ในเขตอุทยาน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอใช้สร้างอาคารที่พัก และ ที่ทำการตำรวจบนเกาะหลีเป๊ะ แต่ปัจจุบันกลับถูกนายทุน และมีผู้อิทธิพลในพื้นที่บุกรุกยึดถือครอบครองสร้างโรงแรมหรู จนเหลือพื้นที่อาคารโรงพักหลีเป๊ะเพียงแค่ครึ่งไร่เท่านั้น อีกทั้งกลุ่มนายทุนยังได้ฟ้องขับไล่ตำรวจให้รื้อถอนโรงพักและอาคารออกจากพื้นที่อีกด้วย
พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารพักอาศัย เนื่องจากเห็นว่า โจทก์มีชื่อในที่ดินพิพาท ออกโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และ กรมที่ดินจังหวัด ซึ่งยังไม่ถูกเพิกถอน ทำให้เชื่อว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท และ ทาง สภ.หลีเป๊ะ ได้ทำการรื้อถอนบ้านพักออกไปตามคำพิพากษา และ เหลืออยู่เพียงตัวอาคารที่ทำการโรงพัก
แต่ต่อมาเมื่อ 6 ธันวาคม 2556 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 5697/2559 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ โดยให้เหตุผลว่า อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อนุญาตให้จำเลยใช้ที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาสามารถก่อสร้างอาคารที่พักเจ้าพนักงานตำรวจสายตรวจรักษาความปลอดภัยทางทะเล และที่พักอาศัยของผู้บังคับบัญชาบนเกาะหลีเป๊ะได้
ทำให้การที่โจทก์มีเอกสารสิทธิหนังสือรับรองการทำประโยชน์ยึดถือไว้ก็ยังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์มีสิทธิหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถือไว้ ก็ยังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทดีกว่ากรมป่าไม้ และข้อเท็จจริงยังไม่อาจรับฟังได้ว่าโจทก์มีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่ากรมป่าไม้ ทั้งคดีไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์ หรือกรมป่าไม้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทดีกว่ากัน จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี พ.ศ. 2532 กรมตำรวจในสมัยนั้นได้มีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขที่ สต 0018 (กพ.2) / 2409 ลง 19 มิ.ย.32 เพื่อขอใช้ประโยชน์ในเขตที่ดินอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บนเกาะหลีแป๊ะ เพื่อตั้งเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล จำนวน 15 ไร่ ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ใช้พื้นที่ได้จำนวน 10 ไร่ ใช้งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 1,200,000 บาท แต่ปัจจุบันถูกนายทุนบุกรุกที่ดินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลีเป๊ะ จนเหลือที่ดินเพียงครึ่งไร่เท่านั้น