MGR Online - “แม่น้องปาล์ม” ที่ถูกลูกจ้าง รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล จ.ขอนแก่น ขับรถชนพิการตลอดชีวิต ปฏิเสธค่าเยียวยา 9 เเสนบาท ระบุค่าหมอและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง รับเหมือนตกขุมนรกแต่เพื่อลูกจะสู้ให้ถึงที่สุด ด้านโฆษก อสส.เผยเตรียมเร่งรัดสำนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น ติดต่อกระทรวงสาธารณสุขให้นัดคู่ความไกล่เกลี่ย หากตกลงกันได้ก็ยุติคดีได้
จากกรณีนางปวีณา หาทรัพย์ อาชีพลูกจ้างชั่วคราวใน รพ.ชุมเเพ จังหวัดขอนเเก่น อายุ 30 ปี พร้อม ด.ช.ปราบปราม หรือน้องปาล์ม เจิมขุนทด อายุ 3 ขวบ 1 เดือน ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือทางคดีต่อสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีสามีเเละบุตรชายของตนถูกรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ขับชนและบุตรชายต้องพิการมีอาการชาตั้งแต่ราวนมมาถึงช่วงล่าง ส่งผลให้ไม่มีความรู้สึก เดินไม่ได้ อีกทั้งเวลาขับถ่ายไม่มีความรู้สึกต้องใส่แพมเพอร์สและปัสสาวะทางสายยาง โดยคดีนี้ศาลแขวงขอนแก่นได้มีคำพิพากษาจำคุกนายเกต นาถมทอง อายุ 68 ปี คนขับรถดังกล่าว 6 เดือน ปรับสามพันบาท รอลงอาญา 2 ปีไปแล้ว แต่คดีแพ่งนั้นทางผู้เสียหายมีนายศราวุฒิ เจิมขุนทด สามีซึ่งได้รับบาดเจ็บกับ ด.ช.ปราบปราม และตนเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยที่ 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยที่ 2 เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยมีการไกล่เกลี่ยกันมาหลายครั้งแต่ไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 พ.ย.) น.ส.ปวีณา มารดาน้องปาล์ม เปิดเผยว่า ได้มีผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุขมาเจรจาทางโทรศัพท์ บอกว่าตามที่เรียกร้องไป 5 ล้านบาท และเคยมีการเจรจาลดหลั่นค่าเสียหายลงมาเหลือ 2 ล้านบาทนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาดูเเละเสนอตัวเลขให้สุดท้ายจำนวน 9 แสนบาทจะรับหรือไม่ โดยตนได้ปฏิเสธว่าน้องปาล์มมีสภาพความเป็นอยู่ลำบาก ต้องไปพบแพทย์ทุกวัน ค่ารถ ค่าหมอ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์นับวันจะสูงขึ้น ตัวเลข 2 ล้านบาทที่เคยบอกไปก็นับว่าน้อยมากแล้วจึงปฏิเสธไม่รับ ทางผู้แทนกระทรวงจึงบอกว่าจะกลับไปเสนอผู้บริหารต่อไป และกล่าวว่าความจริงหากกระทรวงสาธารณสุขสามารถทำให้น้องปาล์มเป็นปกติได้ เงินทองก็ไม่สำคัญ แต่ในความจริงเรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มทุกวัน ตนเป็นลูกจ้างราชการมีเงินเดือน 6,600 บาท สามีก็ทำนา ตอนนี้สู้คดีจนหมดตัวแล้ว
น.ส.ปวีณากล่าวว่า วันนี้ได้นำน้องปาล์มารักษาตัวที่ รพ.ศรีนครินทร์ อ.เมืองขอนแก่น ตามที่แพทย์นัดเพราะเอกซเรย์อัลตราซาวนด์ดูกระเพาะปัสสาวะเกรงว่าจะติดเชื้อ ตอนนี้ครอบครัวท้อแท้ ถ้าทางราชการมีการต่อรองเงินค่าสินไหมทดแทนมาเรื่อยๆ ตนก็รับไม่ได้จริงๆ ดูอาการลูกแล้วได้แต่ร้องไห้ นอนไม่หลับชีวิตเหมือนตกในขุมนรก แต่แข็งใจสู้เพื่อลูกเพราะเขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป จึงต้องทำเพื่อลูกให้ดีที่สุด ทั้งนี้ตนอยากขอขอบคุณอัยการที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดได้ให้ความสนใจเรื่องนี้และกำชับให้ตนได้ติดตามเรื่องไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดชุมแพ ตั้งอยู่ที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อขอทราบความคืบหน้าและได้ความว่าทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานมาว่า หากสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะทำหนังสือข้อหารือมายังอัยการตามขั้นตอน ทางอัยการจะตอบไปว่าคู่ความมีทางตกลงกันได้ สามารถยุติคดีได้
“ชัยชนะของอัยการไม่ได้อยู่ที่คดี แต่อยู่ที่การสร้างความเป็นธรรมให้ยุติ ดับทุกข์คนจน รักษาผลประโยชน์รัฐคือเป้าหมาย เมื่ออัยการทำความเห็นทางคดีเรื่องนี้อย่างไร ทางสาธารณสุขต้องฟังอัยการ หากตัวความพอใจตัวเลขเยียวยาทั้งสองฝ่าย คดีก็ตกลงกันได้” นายโกศลวัฒน์กล่าวย้ำ
