MGR Online - โฆษก ตร.พร้อมนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เผยเตรียมเฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ และบุคลากรสนับสนุนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็ว เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยบินได้ภายใน 15 นาที ช่วงงานพระราชพิธีฯ แม้จะมีทีมแพทย์ และพยาบาลอาสา 700 คน คอยดูแลสุขภาพร่างกายแก่ ปชช.รอบพระบรมมหาราชวัง
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการอำนายความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหลายหน่วย นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายเทคโนโลยีเปิดแอปพลิเคชัน ZON เพื่ออัปเดตปริมาณรถในจุดจอดรถทั่ว กทม. โดยจะมีการอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ส่วนมาตรการดูแลด้านจราจรตำรวจมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวก รองรับรถในต่างจังหวัดวิ่งมาที่จุดต่างๆ และมีรถชัตเตอร์บัสคอยรับส่งไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่ว กทม.เช่นเดียวกัน ในส่วนการเตรียมความพร้อมในการดูแลด้านการแพทย์ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะให้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 6 ลำ ของกองบินตำรวจ คอยสนับสนุนการเคลื่อนย้ายและลำเลียงผู้ป่วยอีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจได้จัดเตรียมหน่วยแพทย์และพยาบาล คอยอำนวยความสะดวกดูแลสุขภาพร่างกายแก่ประชาชนรอบพระบรมมหาราชวัง และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดทั้งวัน โดยทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ ประกอบด้วย แพทย์ฉุกเฉิน แพทย์หัวใจ แพทย์สมอง และพยาบาล ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 โดยมีผู้มาใช้บริการแล้วกว่า 113,000 คน ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลตำรวจจะเพิ่มเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลอาสาอีกประมาณ 700 คน ให้ทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจที่เข้าเวรคอยเป็นทีมสนับสนุนหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น รวมถึงยังมีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงผู้ป่วยของกองบินตำรวจคอยสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีกทางหนึ่ง เพราะมีความรวดเร็วสามารถบินเข้าพื้นที่สนามหลวงได้ภายใน 15 นาที เนื่องจากในวันพระราชพิธีมีประชาชนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยอีกทาง
พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์กล่าวด้วยว่า ขอคำแนะนำให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมพระราชพิธีฯ ว่าก่อนเดินทางควรรับประทานอาหาร และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันอาการเป็นลม เนื่องจากช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน อีกทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหัวใจก็ไม่ควรเข้าไปเบียดในที่ที่มีคนจำนวนมาก เพราะอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบขึ้นได้ อาจจะต้องเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่แออัด หรือไปร่วมพิธีตามจุดพระเมรุมาศจำลองก็ได้ ทั้งนี้ในการดูแลสุขภาพประชาชน มีแพทย์และพยาบาลอาสาประจำอยู่ทุกจุด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน
