MGR Online - ดีเอสไอ เผย ความคืบหน้าคดีผู้ต้องหาอ้างเป็นรัชทายาทเจ้าแห่งรัฐมอญ กระทำผิดเชื่อมโยงมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่านมีนบุรี และ นสพ.ตำรวจพลเมือง ก่อนแจ้งข้อหาได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์
จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผสานกำลังตำรวจ ทหาร ใช้มาตรา 44 ตรวจค้นบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี, มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ และ บริษัท เอสวี ลีสซิ่ง จำกัด ย่านเขตสายไหม กรุงเทพฯ หลังพบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายร่วมลงทุนธุรกิจในรัฐมอญ ประเทศพม่า และแอบอ้างเป็นรัชทายาทเจ้าแห่งรัฐมอญ มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก จากนั้นผู้เสียหายบางส่วนเดินทางเข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอ เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
วันนี้ (17 ต.ค.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้า ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ไปตรวจค้นที่ตั้งของ บริษัท เอสวี ลีสซิ่ง จำกัด ย่านสายไหม พบเอกสารความเชื่อมโยงกับ บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด และ มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่านมีนบุรี ซึ่งทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวได้ใช้สถานที่ตั้งเดียวกัน เช่น ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หรือ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับ มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นสพ.ตำรวจพลเมือง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสรุปสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่ ฌาปนกิจสงเคราะห์ 1 ชีวิต 1 ล้าน อีกทั้งยังมีผู้เสียหายอีกประมาณ 30 คน เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม คาดว่า อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
“สำหรับ มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นสพ.ตำรวจพลเมือง เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นคนกลุ่มเดียวกัน และมีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงขณะนี้สามารถยืนยันได้ว่าขบวนการดังกล่าวมีหลายบริษัท แต่มีการเอื้อประโยชน์ต่อกันทั้งหมด และแบ่งหน้าที่กันชัดเจน เช่น บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป หลอกลวงนักธุรกิจลงทุน 78 โครงการสัมปทานก่อสร้างในประเทศเมียนมา แต่ให้มีการซื้อเครื่องแบบ ซื้อชั้นยศ และค่าสมัครสมาชิกจากมูลนิธิบรรเทาภัยฯ และ บริษัท เอสวี ลีสซิ่ง จำกัด จุดเริ่มต้น เจ้าเทพโยธิน มหาทุน เป็นต้น ซึ่งได้ใช้แผนการนี้ในการติดต่อกับเหยื่อทั่วประเทศ โดยหลังจากนี้จะมีการพิจารณาในการแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมด” พ.ต.อ.สุริยา กล่าว