MGROnline - เหยื่อแชร์ลูกโซ่รัชทายาทมอญเก๊ เขาพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ เพื่อสอบปากคำเพิ่ม เผยถูกชักชวนสมัครโครงการสัมปทานก่อสร้างอ้างได้ผลตอบแทนหลายร้อยล้านเพียงลงทุน 1-2 แสนบาท สั่งสอบขยายผล "มูลนิธิอาสาบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ระบุชัดผิดกฎหมายแต่งชุดเลียนแบบนายพลตำรวจ
จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังตำรวจ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และ ทหาร ใช้มาตรา 44 เข้าตรวจค้น บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ หลังพบว่ามีการหลอกลวงสมาชิกให้ร่วมลงทุนธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน และแอบอ้างเป็นรัชทายาทเจ้าแห่งรัฐมอญ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท
วันนี้ (9 ต.ค.) เวลา 11.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานเกี่ยวกับกลุ่มขบวนการแอบอ้างดังกล่าว เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ ดีเอสไอ และ บก.ป. จึงดำเนินการตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทราบว่า สร้างเรื่องเท็จหลอกนักธุรกิจไทยร่วมลงทุนสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่รัฐมอญ ในประเทศพม่า จำนวน 78 โครงการ โดยมี นางสุภัตทา จันทรรังษี เป็นประธานกรรมการบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ นายกอว มินต์ อู (Kyaw Myint Oo) หรือ เจ้าเทพโยธิน มหาทุน ชาวสัญชาติพม่า ที่แอบอ้างเป็นเจ้าแห่งรัฐมอญ และ นายโกสินธ์ จินาอ่อน ทำหน้าที่สื่อมวลชน ซึ่งนับเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหาย เพราะมีภาพข่าวปรากฏตามสื่อออนไลน์
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ดีเอสไอ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนก่อนเสนอ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ขออนุมัติเป็นคดีพิเศษ 217/2560 ก่อนมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 3 รายดังกล่าว ในฐานความผิด ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนคดีฟอกเงินกำลังตรวจสอบ กระทั่งจับ นางสุภัตทา และ นายโกสินธ์ ส่วน นายกอว มินต์ อู ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ที่ประเทศพม่า รวมถึงเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นห้องพัก นายสุภัตทา แห่งหนึ่ง และพบเอกสารปลอมแปลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ จะมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ
“สำหรับ มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"นั้นอยู่ระหว่างทำการสอบสวนขยายผลเข้าไปมีสวนเกี่ยวข้องใดบ้าง ส่วนการแต่งเครื่องแบบคล้ายชุดราชการไทยนั้นมีการติดยศเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ต้องเสียค่าบริจาคประดับชั้นยศ เช่น พล.ต. 50,000 บาท และ พล.ท. 80,000 บาท เพื่อออกงานตามโครงการต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เตรียมดำเนินการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ต่อไป”
ด้าน นายชานนท์ (สงวนนามสกุล) ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กลุ่มบุคคลในบริษัท ฮัจยี ชักชวนไปสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิดังกล่าว และชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานก่อสร้าง เนื่องจากตนเองทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเสนอค่าตอบแทนสูง ลงทุนเพียง 1 - 2 แสนบาท แต่จะได้ผลประโยชนตอบแทนหลายร้อยล้านบาท และเหตุผลที่หลงเชื่อเพราะมีการแอบอ้างภาครัฐ ยศข้าราชการ และอ้างถึงทุนจดทะเบียนบริษัท 5 แสนล้านบาท