MGR Online - ศาลนัดสอบคำให้การ “ประเวศ ประภานุกุล” ทนายเสื้อแดงโพสต์เฟซบุ๊กผิด ม.112 ยุยงปลุกปั่น และผิด พ.ร.บ.คอมพ์ เจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมขอถอนทนาย แถมยังเปล่งวาจากลางศาล ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 8 พ.ค.ปีหน้า
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจหลักฐาน คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายประเวศ ประภานุกุล ทนายความ นปช. เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ข้อหากระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น) และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 41 พ.ศ. 2549
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 25 ม.ค. 2560 - 23 เม.ย. 2560 เวลากลางวันและเวลากลางคืน จำเลยเป็นผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประเวศ ประภานุกูล” ซึ่งเป็นบัญชีส่วนบุคคล มีผู้ติดตามจำนวน 2,574 คน และมีเพื่อน 4,769 คน โดยจำเลยนำข้อมูลที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยการโพสต์ข้อความต่างๆ ที่มีลักษณะละเมิดกฎหมาย ลงในเฟซบุ๊กของจำเลย อันมิใช่ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน หรือเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท จึงเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.และเกี่ยวเนื่องกันทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 112, 116, 368 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2559 ข้อ 1 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4
วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายประเวศ จำเลย ที่มีใบหน้าเรียบเฉย สวมแว่นตา และสวมชุดนักโทษสีน้ำตาล มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยได้ปฏิเสธเกี่ยวกับคำให้การและได้แถลงต่อศาลว่า ประสงค์จะขอถอนทนายความจำเลยจำนวน 3 ราย จากนั้นได้แถลงต่อศาลว่าตนไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรมของศาลไทยและไม่ขอตรวจพยานหลักฐานในคดี ขณะที่อัยการโจทก์แถลงขอนำพยานเข้าสืบ 11 ปาก เช่น ผู้ตรวจสอบเว็บไซต์, เอกสารข้อความที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และพยานหลักฐานอื่นๆ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตและนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 8 พ.ค. 2561 เวลา 09.30 น.