MGR Online - “วัฒนา เมืองสุข” ดิ้นยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำขอฝากขังคดีปลุกปั่น-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ อ้างโดนเลือกปฏิบัติ ด้านอธิบดีศาอาญาเผยยกคำร้องไต่สวนตำรวจ ปอท.ข่มขู่กลางศาล ชี้"วัฒนา"มิใช่ผู้เสียหายโดยตรง เจ้าตัวยังปากแข็ง ยันพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ของตระกูลชินวัตร ชี้ “ปู” ไปแล้ว คสช.จะได้ไม่มีข้ออ้างอีก
วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นอุทธรณ์คัดค้านการฝากขัง หลังจากที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ยื่นฝากขัง และศาลได้อนุญาตฝากขังเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ปอท.ไม่ได้อ้างเหตุจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องควบคุมตัวนายวัฒนา และการที่นายวัฒนาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ย่อมถือได้ว่าไม่มีเจตนาหลบหนี ไม่มีเหตุจำเป็นต้องควบคุมตัว คำสั่งศาลที่อนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
นายวัฒนากล่าวว่า รัฐธรรมนูญสันนิษฐานว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ การควบคุมตัวต้องกระทำเท่าที่จำเป็นไม่ให้หลบหนี แต่ตนมาแสดงตัวไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่จำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะขอให้ศาลควบคุมตน จึงมายื่นอุทธรณ์คัดค้าน ส่วนกรณีที่ขอให้ศาลไต่สวนพนักงานสอบสวนข่มขู่ทนายความนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ตนไม่ได้มาติดตาม และไม่มีการแจ้งผลกลับมาว่าเป็นอย่างไร ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ซึ่งครบกำหนดการฝากขัง ตนก็จะมายื่นคัดค้านต่อศาลอาญาอีก เขาไม่มีสิทธิฝากขังตน เป็นการเลือกปฏิบัติด้วย คนอื่นไปแสดงตัวปล่อยกลับหมด แต่เอาตนมาฝากขังเป็นการเลือกปฏิบัติ เป็นเรื่องการเมืองอย่างชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว และอนาคตของพรรคเพื่อไทยต่อไป นายวัฒนากล่าวว่า เรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ตัดสินใจไม่มาฟังคำพิพากษาเป็นดุลพินิจส่วนตัวของท่าน ตนไม่ก้าวล่วง ส่วนจะมีผลอะไรต่อพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มี เพราะพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่เปลี่ยนแปลง ตรงกันข้าม ถ้ามองในแง่ดีที่ผ่านมาหลายคนมองว่าพรรคนี้สู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง จะไม่มีข้ออ้างนี้อีกแล้ว เป็นการสู้เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เราจะรักกันมากขึ้น ส่วนการเลือกผู้นำพรรคยังทำไม่ได้ เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ให้มีการประชุม ถ้ามีการประชุมคงมีการเลือกผู้นำพรรคต่อไป
“ผมมองว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยจะมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อข้ออ้างของหลายคนที่ว่าพรรคนี้เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่ง ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งมันหมดไปแล้ว วันนี้จบแล้ว ดังนั้นต่อไปผมคิดว่าคนที่เป็นกลางๆ เช่น นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ หรือประชาชนทั่วไปจะหันมาสนับสนุนพรรคการเมืองนี้มากขึ้น เพราะไม่มีข้ออ้างอีกแล้ว และผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีการต่อสู้กับเผด็จการอย่างชัดเจนที่สุด พรรคอื่นก็เห็นอิงแอบกัน” นายวัฒนากล่าว
เมื่อถามว่ามีความคาดหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาหรือไม่ นายวัฒนากล่าวว่า ตอบแทนไม่ได้ ตนเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องมีการสื่อสารมายังประชาชนแน่นอน ตอนนี้เพิ่งกะทันหันคงไม่มีใครไปคิดอะไรแทนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายวัฒนาให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ตำรวจศาลได้เข้ามาเชิญตัวนายวัฒนาพร้อมทนายความลงไปที่ห้องเวรชี้ ชั้น 1 ของศาลอาญา โดยแจ้งว่าผู้บริหารศาลอาญาให้เข้าพบเพื่อจะสอบถามนายวัฒนาเพิ่มเติม
ขณะที่นายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องที่นายวัฒนายื่นขอให้ศาลเรียกพนักงานสอบสวน ปอท.มาไต่สวนกรณีประพฤติตนไม่เหมาะสมในบริเวณศาลด้วยการพูดจาลักษณะข่มขู่ทนายความของนายวัฒนาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการยื่นฝากขังนายวัฒนาว่า ได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่าคำร้องนั้นซึ่งลงชื่อนายวัฒนา โดยตัวนายวัฒนามิใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าวแล้ว