MGR Online - ศาลให้ประกัน “วัฒนา” 2 แสน ในคดีโพสต์ข้อความยุยงปลุกปั่นตามที่ ปอท.ฟ้อง แต่เจอสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท โดยรอลงอาญาไว้ 1 ปี ฐานละเมิดอำนาจศาล ถ่ายสดเฟซบุ๊กไลฟ์ในศาลระหว่างรอฝากขัง
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้พิจารณาคำคัดค้านของนายวัฒนา เมืองสุข ที่พนักงานสอบสวน ปอท.ยื่นฝากขังครั้งแรกในวันนี้แล้ว ได้มีคำสั่งยกคำคัดค้านของนายวัฒนา โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังนายวัฒนาได้ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ปอท.เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. - 1 ก.ย.นี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายวัฒนาจากห้องเวรชี้ ชั้น 1 ศาลอาญาที่พิจารณาคำร้องฝากขัง ขึ้นมายังห้องพิจารณา 812 เพื่อให้ศาลไต่สวนกรณีนายวัฒนาเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาลจากการประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล กรณีที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวความยาวประมาณ 5 นาที ระหว่างระหว่างนั่งรอพนักงานสอบสวน ปอท.ยื่นคำร้องฝากขังที่ห้องงานรับฟ้องฝากขังชั้น 2 ซึ่งโดยปกติศาลมีข้อกำหนดห้ามบุคคลทำการถ่ายภาพภายในอาคารศาลเผยแพร่อยู่แล้ว
โดยเมื่อเวลา 16.20 น. ศาลได้มีคำสั่งว่า สอบถามนายวัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ยอมรับว่าได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพและต่อมาได้มีการเผยแพร่ลงในสังคมออนไลน์ ศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสมและไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นการละเมิดอำนาจศาลตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30, 31 และประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลจึงให้จำคุก 1 เดือน และปรับ 500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และให้ผู้ถูกกล่าวหาลบโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วย
ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้วนายวัฒนาได้ชำระค่าปรับ 500 บาท จากนั้นก็ได้มารอฟังคำสั่งการประกันตัวในชั้นฝากขัง โดยเมื่อเวลา 16.40 น. ศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์ของนายวัฒนาที่ขอปล่อยชั่วคราวแล้วจึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวนายวัฒนา ผู้ต้องหาคดีปลุกปั่นและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในชั้นฝากขังนี้ โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท โดยมิได้กำหนดเงื่อนไขการประกันตัวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตัดสินข้อกล่าวหานายวัฒนาละเมิดอำนาจศาลจากการทำเฟซบุ๊กไลฟ์บริเวณศาลโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ถือเป็นคดีแรกที่เคยมีการกล่าวหาและลงโทษผู้ที่กระทำ หลังจากปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมอย่างมาก
หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว นายวัฒนา เมืองสุข ให้สัมภาษณ์ว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวโดยอ้างว่าตนทำผิดซ้ำซาก ก็อยากถามว่าถ้าตนทำผิดซ้ำซากทำไมไม่แจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ศาลท่านก็ใช้ดุลพินิจในการให้ประกันตัวแล้ว และระหว่างอยู่ในศาลตนไม่ทราบข้อกำหนด ถามเจ้าหน้าที่ศาลว่าใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่ก็ได้รับคำตอบว่าใช้ได้ จึงทำการเฟซบุ๊กไลฟ์แล้วโดนข้อหาละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตนไม่มีเจตนา เพราะถ่ายแค่หน้าตัวเอง และเข้าใจผิด จริงๆใช้ได้แค่โทรศัพท์ นึกว่าใช้ได้ทุกอย่าง ส่วนขั้นตอนดำเนินการของ ปอท.นั้น ต้องรอสรุปสำนวนและสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ ซึ่งตนมีคดีที่ ปอท.ทั้งหมด 3 สำนวน และทราบจากแม่บ้านว่าวันนี้มีหมายส่งมาที่บ้าน อาจจะมีหนึ่งคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกหวั่นใจหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า เฉยๆ ถ้าเรายืนอยู่บนความถูกต้องไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ประชาชนต่างรอเวลาที่จะเลือกตั้งรออำนาจกลับคืนมา คนที่ต้องกังวลคือพวกเผด็จการไม่ใช่ตน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนถูกควบคุมตัวจึงไม่ตื่นเต้น ตนเคยถูกทหารมาอุ้มตัวตั้งเยอะแยะ วันนี้เดินมาศาลเอง เบากว่าที่ถูกทหารมาล้อมบ้านด้วยซ้ำ
“ศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขในเรื่องของการประกันตัว เพราะสิ่งที่ผมทำผมใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ผมก็ยังจะแสดงความคิดเห็น เพราะผมถือว่ารัฐบาลบริหารงานด้วยเงินภาษีประชาชน ภาษีคุณด้วยภาษีผมด้วย ทำไมผมจะวิจารณ์ไม่ได้ แล้วเรื่องของคุณยิ่งลักษณ์ผมยืนยันว่า ประชาชนมาให้กำลังใจได้ การมาให้กำลังใจท่านมันไม่ได้มีผลอะไรต่อคำพิพากษา ประชาชนไม่ได้มากดดัน มาฟังอย่างสงบ ก็ไม่เข้าใจรัฐบาลกลัวอะไร ยังยืนยันว่าจะต่อสู้ต่อไป เพราะว่าการยึดอำนาจที่ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ผมเรียนนะครับว่าได้รัฐบาลเก่งๆ ที่มาจากการเลือกตั้งเดี๋ยวก็ได้คืน เศรษฐกิจมันก็ดีขึ้น แต่การที่รัฐบาลเผด็จการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดไว้ เอากฎหมายมาเป็นเครื่องมือทำร้ายผม ทำร้ายประชาชน มันเสียหายระยะยาว อันนี้ต่างหากที่ผมสู้ ผมไม่ยอม” นายวัฒนา กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบบ้างหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องการใช้อำนาจเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดก็คงต้องดำเนินการกัน วันนี้ขอเอาเรื่องเร่งด่วนก่อน คือคดีที่ตนมีเพิ่ม และขอบอกประชาชนว่าวันที่ 25 ส.ค.นี้ ใครอยากมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเสรีภาพ ใครก็ห้ามไม่ได้
เมื่อถามว่าคิดว่าในวันดังกล่าวจะมีความวุ่นวายตามที่ฝ่ายรัฐกังวลหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ไม่มีหรอก ประชาชนที่มาให้กำลังใจมาด้วยความสงบ กระบวนการดำเนินมาปีกว่าก็ไม่เห็นมีใครไปจาบจ้วงล่วงเกินขัดขวางกระบวนการพิจารณา คนที่ทำให้วุ่นวายปั่นป่วนคือรัฐบาลไม่ใช่ประชาชน ส่วนตนไปให้กำลังใจแน่นอน ปิดถนนก็จะเดินไป เป็นเสรีภาพห้ามตนไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ส่อทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร นายวัฒนา กล่าวพร้อมถามกลับว่า เรื่องนี้ใช้เหตุผลง่ายๆ ว่า เรื่องถูกแช่ไว้ตั้ง 12 ปี ขยับไปไหนไม่ได้ คิดว่าเพราะ ป.ป.ช.เขาเมตตา หรือช่วยผม หรือเพราะว่ายังไม่มีพยานหลักฐานอะไร