ตัวแทนบริษัทขนส่งสุนัขเข้าแจ้งความต่อ สน.สุทธิสาร เอาผิดนักศึกษาแพทย์ว่าจ้างขนส่งสุนัข แต่แอบป้อนยาหวังให้ตาย เพื่อเอาเงินประกัน ฐานฉ้อโกงและทารุณกรรมสัตว์ เตรียมเรียกสอบปากคำอาทิตย์หน้า
วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ตัวแทนกลุ่ม Watchdog Thailand หรือ WDT พร้อมด้วย นางณัฐนันท์ จีระวิวิทธ ตัวแทนบริษัทขนส่ง H.S.K.Express ซึ่งรับขนส่งสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวแรกจากนักศึกษาแพทย์ บริเวณโรงแรม Sillemon ลาดพร้าว 18 โดยเข้าแจ้งความเป็นเจ้าทุกข์ในข้อหาทารุณกรรมสัตว์และฉ้อโกงหวังเอาเงินประกันค่าเสียหายจากการเดินทางต่อ สน.สุทธิสาร
โดย นางณัฐนันท์ จีระวิวิทธ กล่าวว่า แม้บริษัทของตนจะไม่ต้องชดใช้เงินประกัน เนื่องจากสุนัขไม่ได้เสียชีวิตระหว่างทาง แต่ต้องการแจ้งความเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างต่อสังคม ซึ่งยอมรับว่า หลังเกิดเหตุทำให้ต้องเข้มงวดต่อการรับขนส่งสัตว์เลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต
พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก. (สอบสวน) สน.สุทธิสาร กล่าวว่า จากการร้องทุกข์ของตัวแทนกลุ่ม Watchdog Thailand หรือ WDT และบริษัทขนส่ง H.S.K.Express เข้าแจ้งความต่อนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเจตนาว่าจ้างให้ขนส่งสุนัขเพื่อเอาเงินประกันภัย ในข้อหาฉ้อโกงและทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งจะเร่งรวบรวมหลักฐาน ซึ่งขณะนี้มีเอกสารการปลอมแปลงราคาซื้อสุนัข และการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ รวมทั้งเอกสารการประกันภัยระหว่างขนส่ง และยอมรับว่า ยังขาดหลักฐานสำคัญ คือ ตัวยาที่ใช้ฆ่าสุนัขตัวแรก เนื่องจากเกิดเรื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งบริษัทขนส่งไม่ได้ติดใจเอาความ จนเกิดเหตุกับสุนัขตัวที่ 2 จึงได้เข้าร้องทุกข์
อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบสวนพยานในวันนี้แล้วคาดว่าจะสามารถออกหมายเรียกตัวนักศึกษาแพทย์มาให้ปากคำได้ในสัปดาห์หน้า
ด้าน พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ตัวแทนกลุ่ม Watchdog Thailand หรือ WDT ได้มาแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร เนื่องจากบริษัทขนส่งสุนัขไปที่ จ.นครราชสีมา ได้มารับสุนัขที่บริเวณ ซ.ลาดพร้าว 18 ซึ่งผู้ที่ขนส่งเห็นว่ามียาติดอยู่ที่ปากสุนัข ซึ่งมีการทารุณกรรมสัตว์เกิดขึ้น จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบว่ามีการทารุณกรรมสัตว์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และทางบริษัทขนส่ง H.S.K.Express ได้รับความเสียหาย ถูกหลอกลวง จาก นายภัทรพงศ์ ทรงทรัพย์กุล เจ้าของสุนัขได้มาแจ้งกับบริษัทขนส่งว่าจะส่งสุนัขไปที่จ.นครราชสีมา จากนั้นจึงมีการนัดรับสุนัขที่บริเวณ ซ.ลาดพร้าว 18 เมื่อมีการส่งมอบก็ได้แจ้งกับบริษัทขนส่งว่า สุนัขตัวดังกล่าวราคา 40,000 บาท จึงต้องวางเงินประกันจำนวน 4,000 บาท หลังจากนั้น ทางเจ้าของบริษัทขนส่ง คนขับรถ และเจ้าของสุนัข ก็เดินทางไปที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างทางสุนัขได้อาเจียนไปตลอด เมื่อไปถึง จ.นครราชสีมา จึงได้พาสุนัขไปตรวจอาการที่คลินิกบ้านหมอต้นว่าอาการเกิดจากอะไร ซึ่งขณะนั้นสุนัขยังไม่ได้เสียชีวิต ต่อมาสุนัขได้เสียชีวิต ทางเจ้าของสุนัขจึงมาเรียกร้องเอาเงินประกันกับบริษัทขนส่ง โดยอ้างว่าสุนัขเสียชีวิตจากการขนส่งเดินทาง แต่ทางบริษัทให้เหตุผลว่าสุนัขไม่ได้เสียชีวิตระหว่างการขนส่งเดินทาง แต่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
พ.ต.อ.เติมเผ่า เปิดเผยต่อว่า เมื่อตรวจสอบพบว่า เจ้าของสุนัขได้ซื้อสุนัขมาจากฟาร์มในราคา 6,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องไปสอบปากคำฟาร์มสุนัขว่าเป็นสุนัขตัวเดียวกันหรือไม่ หากเป็นสุนัขตัวเดียวกันที่ซื้อมาในราคา 6,000 บาท แต่ไปหลอกทางบริษัทขนส่งว่าซื้อมาในราคา 40,000 บาท และมีการทำประกัน ถึงแม้จะยังไม่ได้เงินไป แต่มีการพยายามเรียกร้องเงินจากบริษัทซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิด ขณะนี้มีเพียงพยานหลักฐานยืนยันจากการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์เพียงอย่างเดียวว่าสุนัขได้ซื้อมาในราคาใด ซึ่งจะประสานเจ้าของฟาร์มเพื่อสอบปากคำว่าได้ขายสุนัขมาในราคา 6,000 บาท จริงหรือไม่ และจะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะเรียกเจ้าของสุนัขมาให้การ ในเบื้องต้นการกระทำการที่เรียกร้องเงินประกันจากบริษัทขนส่ง แม้จะเรียกร้องไม่สำเร็จ จะเข้าข่ายฐานความผิด พยายามฉ้อโกง ส่วนความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์นั้น ยังไม่เห็นชัดเจน เนื่องจากเราไม่เห็นตอนป้อนยา แต่เห็นตอนที่ยาติดอยู่ ซึ่งจะตรวจสอบได้ยาก แต่มีอีกเคสหนึ่งซึ่งอยู่ในอีกพื้นที่จะเห็นการกระทำความผิดชัดเจน เพราะคนขับรถเห็นขณะมีการป้อนยาให้สุนัข