สภ.บางพลี จับหนุ่มเจ้าของร้านสนุกเกอร์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รับโมโหผู้ตายขว้างขวดใส่ร้าน นัดมาเคลียร์แต่ตกลงกันไม่ได้ เลยยิงหัวดับ อีกคดีจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดทรัพย์รวมกว่า 8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 60 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิยพงศ์ ผบก.ภจว.สมุทรปราการ ได้ทำการคุมตัว นายประสิทธิ์ หรือ มอ แสงพันธ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านสนุกเกอร์ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมายังห้องประชุม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปชี้จุดพร้อมกับทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสนุกเกอร์ด้านหลังของตลาดสดแห่งหนึ่ง ริมถนนสายวัดศรีวารีน้อย ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และอีกจุดคือภายในร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในตลาดทิพย์เกสร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชนวนเหตุการณ์ ลงมือใช้อาวุธปืนยิง นายอนุชา หรือ นิ่ม กัณฑษา จนเสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่าสำหรับคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ของนายประสิทธิ์ แสงพันธิ์ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีผู้พบศพนอนค่อมรถ จยย. เสียชีวิตและจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุและสภาพศพพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี จึงร่วมฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแสของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ โดยได้หลักฐานสำคัญ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุประกอบกับพยานจากคำให้การของพยานที่พนักงานสอบสวนได้เชิญมาสอบปากคำจึงมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ นายประสิทธิ์
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ช่วงหัวค่ำวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับขยายผลค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจนกระทั่งพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ภายในมีกระสุนจำนวน 6 นัด ถูกยิงออกไปแล้วจำนวน 4 นัด
ส่วนสาเหตุนั้นพบว่ามาจากความโมโหบันดาลโทสะของผู้ต้องหา ที่ทราบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตหลังจากที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในผับแห่งหนึ่งและผู้เสียบชีวิตได้ขับรถ จยย. เข้ามาใช้ขวดปาใส่ร้านสนุกเกอร์จนทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยมีวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ และหลังจากที่ผู้ดูแลโต๊ะสนุ๊กกลับมาเห็นจึงแจ้งกับนายมอ (ผู้ต้องหา) ให้ทราบก่อนจะพากันมายังจุดเกิดเหตุและโทร.นัดหมายผู้เสียชีวิตให้เข้ามาเคลียร์ แต่ตกลงกันไม่ได้และมีการชกต่อยกัน ผู้ต้องหาสู้ไม่ได้จึงชักอาวุธปืนที่พกอยู่ด้านหลังยิงขู่ขึ้นฟ้าจำนวน 3 นัด แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้เสียชีวิตไม่เกรงกลัวและพยายามเข้ามาทำร้าย จึงยิงเข้าใส่ที่ศีรษะจนจักรยานยนต์ล้มลงก่อนจะนำปืนโยนทิ้งในป่าใกล้จุดเกิดเหตุ และขับรถหลบหนีไปที่บ้านเพื่อนย่านดอนเมือง จนถูกเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
ด้านผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ตนเองก่อเหตุจริง และทำเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุมาจากความโมโหที่ถูกผู้เสียชีวิตมาใช้ขวดปาใส่ในร้าน จึงตั้งใจเรียกมาเคลียร์ แต่ถูกชกต่อยจึงชักปืนยิงใส่จนถึงแก่ความตายดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้ง 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วนอีกคดีเป็นผลงานของตำรวจ สภ.บางพลี ด้วยเช่นกัน ที่สามารถจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้พร้อมกับของกลางเป็นยาบ้า 28,618 เม็ด ยึดรถยนต์ทั้งหมด 8 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 11 คัน เงินสดจำนวน 160,600 บาท สร้อยทองคำ น้ำหนักรวม 13 บาท 50 สตางค์ บัญชีธนาคารต่างๆ รวมทั้งหมดที่ยึดได้มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท และยังจับผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานการเปิดปฏิบัติการ Task Force ครั้งที่ 3 ในยุทธการ ฟ้าสางที่บางพลี กับเป้าหมายในคดียาเสพติดในพื้นที่อำเภอบางพลี และเจ้าหน้าที่ยังคงขยายผลต่อถึงผู้ร่วมขบวนการทุกราย