MGR Online - โจรบุกเดี่ยวเปิดหน้าปล้นธนาคารธนชาตสาขาบางโคล่ ซ้ำรอย 5 ปี ชักปืนขู่เจ้าหน้าที่ส่งเงิน 200,000 บาท ก่อนเดินหลบหนีลอยนวล ผู้จัดการสั่งปิดบริการ 1 วัน ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.10 น. พ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สวป.สน.วัดพระยาไกร กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ เลขที่ 489 ถนนพระราม 3 ตรงข้ามซอยพระราม 3 ที่ 24 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจ สน.วัดพระยาไกร
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสำนักงานสูง 3 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นธนาคาร ภายในพบเจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 28-30 ปี ลักษณะผอมสูง 170 ซม. สวมเสื้อผ้าสีดำ มีเสื้อแจ็กเกตสีดำคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง สะพายเป้เดินเข้ามาภายในธนาคารทำที่ว่าเป็นลูกค้า หลังจากที่ทางธนาคารเปิดทำการได้ในเวลาไม่นาน ก่อนจะใช้อาวุธปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาดจี้บังคับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ให้ส่งเงินมาให้จำนวน 200,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้นำเงินทั้งหมดใส่ไปในกระเป๋าเป้ที่เตรียมมา ก่อนจะหลบหนีออกไปจากธนาคารโดยใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 1 นาที หลบหนีเดินเท้าออกไปจากธนาคารโดยไม่มีพนักงานธนาคารติดตามไป
โดยหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในธนาคารและวงจรปิดใกล้เคียงเพื่อดูรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย และเส้นทางหลบหนีของคนร้าย โดยธนาคารธนชาต สาขาบาโคล่ เคยโดนปล้นมาแล้วเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุทาง รปภ.มีอายุมากแล้ววิ่งตามออกไปแต่ไม่ทัน
พ.ต.อ.เอกรัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า ตามปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่สายตรวจลาดตระเวนมาดูแลความปลอดภัยเป็นระยะอยู่แล้ว เพราะทุกสถาบันการเงินอยู่ในข่ายเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ต้องดูแลและให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าคนร้ายไม่ใช่มืออาชีพ เพราะไม่มีการปิดบังหรืออำพรางใบหน้าแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนได้แนะนำให้ทางธนาคารติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเนื่องจากกล้องวงจรปิดในบางมุมไม่สามารถจับภาพของผู้มาใช้บริการได้อย่างชัดเจนเท่าที่ควร
ด้าน พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าหลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำพนักงานธนาคาร และตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างท้วม สีผิวดำแดง ตัดผมรองทรง ใบหน้ากลม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร พูดภาษากลางชัดเจน แต่งกายคล้ายพนักงานส่งเอกสาร โดยก่อนเกิดเหตุคนร้ายใช้การเดินเท้าและทำทีเป็นลูกค้าของธนาคารเข้ามาติดต่อเป็นคนแรกเมื่อเวลาประมาณ 8 นาฬิกา 52 นาที
จากนั้นคนร้ายเดินไปที่เคาน์เตอร์ ชักอาวุธปืนลูกโม่ขึ้นมาข่มขู่บอกให้ส่งเงิน พร้อมกล่าวขอโทษและอ้างว่ามีความจำเป็น โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที ก่อนเดินออกไป ขณะที่สอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้างว่าไม่ทันสังเกตว่ามีเหตุจี้ชิงเงินจึงไม่ได้ขัดขวาง จึงปฏิบัติหน้าที่และให้บริการลูกค้าไปตามปกติ ส่วนการสอบปากคำนั้นเบื้องต้นมีคนจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน จึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจเคยมาดูลาดเลาก่อนเลือกตัดสินใจลงมือในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะมีคนมาใช้บริการไม่มาก ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจมีภาพที่เห็นใบหน้าของคนร้ายที่ชัดเจน ขอเวลาทำงานอีกระยะหนึ่ง คาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้
ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุจี้ชิงเงินมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2553 แม้คนร้ายจะมีหน้าตาไม่คล้ายคลึงกัน แต่พบว่ามีการใส่เสื้อคลุมคล้ายพนักงานส่งเอกสารเหมือนในวันนี้ ได้เงินไปกว่า 1 แสนบาท แต่ต่อมาก็ถูกตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ ส่วนเหตุการณ์ในวันนี้จำเป็นต้องสั่งปิดธนาคารชั่วคราวเป็นเวลา 1 วัน เพื่อสะสางงานเอกสารภายในให้เรียบร้อย ก่อนเปิดบริการใหม่ในวันพรุ่งนี้แทน