รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2560 ตอน ใครช่วย“ยิ่งลักษณ์”หนี รัฐบาล คสช.ต้องมีคำตอบ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล่องหน ไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ปล่อยให้บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพวก รอเก้อ จนต้องติดคุกกันคนละหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างคิดว่า ยิ่งลักษณ์จะเดินทางมาแน่นอน แต่ทักษิณ ชินวัตร กับยิ่งลักษณ์ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีตระกูลชิน แอบวางยุทธศาสตร์การแสดงได้แนบเนียนและแยบยล ในช่วงโค้งสุดท้ายของการพิจารณาคดี ไม่มีลางบอกเหตุเลยว่า ยิ่งลักษณ์ จะโกยหน้าตั้งออกนอกประเทศ เพราะเธอนั่งยืนนอนยันจะขอเป็นแม่ทัพสู้ตายในสนามรบประชาธิปไตย
แต่พอถึงเวลาจริง กลับชิ่งแบบไม่มีร่องรอย แม้กระทั่งลูกน้องในพรรคหลายคนยังไม่รู้เรื่อง ที่สำคัญไม่มีใครคิดว่ายิ่งลักษณ์จะหนี เพราะในรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้เปิดช่องให้สามารถอุทธรณ์คดีได้ ต่อให้โดนศาลพิพากษาจำคุก โทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีไม่เกิน 10 ปี เบากว่าคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เยอะ
มีโอกาสที่ศาลจะให้อุทธรณ์และวางเงินประกันปล่อยตัวออกมาสูงมาก แต่กลับเตลิดไปก่อน เรื่องนี้ว่ากันว่ามีแค่คนไม่พรรคไม่กี่คนที่รู้ นอกนั้นโดนหลอกกันถ้วนหน้า
หมากกระดานนี้ที่ยิ่งลักษณ์แสดงออกมาจนมวลชนหลงเชื่อนั้น มีรายงานว่า หัวโจกในการวางแผนทั้งหมดคือ ผู้เป็นพี่ชายอย่างทักษิณ ที่มีประสบการณ์การหลบหนีมาแล้วจากเหตุการณ์เมื่อร่วมสิบปีก่อน ที่มีคนหลิ่วตาให้บินไปชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนแล้วไม่กลับมาอีกเลย
โดยทักษิณวางหมากให้ยิ่งลักษณ์และทีมงานเดินตามรอยเท้าตัวเอง วางแผนเตรียมการก่อนจะเดินทางหลบหนีเป็นเวลา 60 วัน จัดฉากให้ยิ่งลักษณ์ตะลอนไหว้พระทำบุญ พร้อมเดินทางไปศาลตลอด แสดงความใจสู้ เพื่อทำให้ทุกๆ คนตายใจ ไม่มานั่งจับตาใกล้ๆ วันตัดสินว่าเธอยังอยู่หรือไม่ ซึ่งก็ได้ผล
แต่ประเด็นสำคัญครั้งนี้คือ เหตุใดยิ่งลักษณ์ถึงหลบหนีได้ง่ายมากๆ ทั้งที่ความเป็นจริงโดยปกติเจ้าหน้าที่จะต้องตามประกบติดเธอ จึงเป็นเรื่องที่ทำให้คนสงสัยว่า มีขบวนการหลิ่วตาให้ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ โดยพุ่งเป้ากันไปที่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะคสช.
อย่างที่รู้กันก่อนหน้านี้ มีการประเมินกันว่าฝั่งผู้มีอำนาจในปัจจุบันนั้นอยากให้ยิ่งลักษณ์ หนีไปให้พ้นๆ เพราะหากยังอยู่สถานการณ์อาจวุ่นวายกว่านี้ ถ้าโดนโทษจับติดคุกจริงๆ อาจเกิดความไม่สงบหรือการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างของมวลชน ทำให้กระเพื่อมเกิดเรื่องเกิดราว
สันนิษฐานว่า เส้นทางที่ยิ่งลักษณ์ใช้หลบหนี จับตาไปที่ 2 เส้นทางคือ ออกไปประเทศกัมพูชา แล้วบินต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ ที่มีทักษิณ แสตนด์บายรอเอาไว้
ซึ่งเส้นทางนี้นอกจากเจ้าหน้าที่ไทยบางคนที่คอยหลิ่วตาแล้ว ทางเขมรยังต้องรับรู้มาก่อนด้วยจึงอำนวยความสะดวกให้
อย่าลืมว่า หากกัมพูชาจะอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ นั่นเพราะสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชามีความสนิทชิดเชื้อกับทักษิณเป็นอย่างมาก แล้ว ตระกูลชินวัตรกับตระกูลของฮุน เซน ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล หากแต่ทั้งสองตระกูลเหมือนจะๆ ดองกันด้วยซ้ำไป
เพราะลูกสาวของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องเขยของทักษิณคือ “เชอร์รี่”ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ ได้แต่งงานกับ นัม ลีนัล เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรี กัมพูชา ลูกชายของมาดามอ้วน วันลี และ เซียง นัม นักการเมืองระดับแถวหน้าของพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ที่เป็นคนสนิทของสมเด็จ ฮุนเซน
ดังนั้น จึงไม่แปลกถ้าทางการฝั่งเขมรจะต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ถ้ายิ่งลักษณ์ไปพักที่เขมรจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ส่วนอีกเส้นทางคือ นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปสิงคโปร์เลย เพราะแม้จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เครื่องบินส่วนตัวลำใดบินเข้าบินออกนอกประเทศ แต่ที่ผ่านมามักมีช่องโหว่จุดหนึ่งคือ ไม่ค่อยมีการแจ้งว่าผู้โดยสารภายในเครื่องเป็นใคร ตรงนี้จึงมีสิทธิ์เช่นเดียวกัน
บังเอิญตรงกับข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงที่พบว่า ยิ่งลักษณ์ใช้เส้นทางบินตรงไปยังสิงคโปร์ ไม่ได้แวะพักที่กัมพูชา โดยมีทักษิณผู้เป็นพี่ชาย เดินทางมารออยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว และจากนั้นยิ่งลักษณ์ได้ต่อเครื่องบินจากประเทศสิงคโปร์เดินทางไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเตรียมจะขอลี้ภัยที่อังกฤษ
เรื่องนี้รัฐบาลต้องมีคำตอบ เพราะทุกคนพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลทั้งหมด การที่ผู้ต้องหาคนสำคัญหลบหนีคดีได้ง่ายๆมันทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ในการใช้กฎหมายลดลง
